Monday, April 30, 2012

หนังสือน่าอ่าน การลาออกครั้งสุดท้าย


เห็นหน้าปก ผมก็งงๆอยู่ แต่ก็ถือว่าน่าสนใจดีสำหรัยการเขียนแบบนี้ เพราะส่วนตัวก็กำลังวางแผนในเรื่องการไม่ต้องทำงานประจำไปจนวันตายน่ะครับ 

ตอนแรกก็ไม่ได้คิดซื้อหรอ เพราะหนังสือหุ้นกองใหญ่ ยังไม่หมดเลย ไหนจะมีเรื่องประชุมผูถือหุ้นอีกมากมายในเวลานั้นๆ ก็เลยปล่อยผ่านไป 

จนมีพี่คนนึง ที่ผมรู้จัก ได้ลาออกไปก่อนที่จะอ่านหนังสือเล่มนี้อีก(พี่แกบอกผมเอง) แนะนำให้ผมอ่านหนังสือเล่มนี้แบบไม่ได้แนะนำ งงป่ะ คือพี่แกเล่นเอามาลงในรูป Profile Facebook เลย ผมเลยต้องไปซื้อมาอ่านจนได้ 

ก็เป็น "บรรทึก" เรื่องราวของชายคนนึง ตั้งแต่เรื่องงานวันแรกที่เริ่มทำงานด้วยความรัก ความตั้งใจและความแน่วแน่ ความหวังที่จะเป็นประโยชน์ของบริษัทให้ถึงที่สุด ความต้องการเงิน เพื่อนฝูง และเมื่อเวลาผ่านไป หลายๆอย่างก็ผ่านไป เริ่มเห็นในสิ่งที่แย่ ไม่ว่าร่างกายที่ทรุดโทรม ไม่ว่าอารมณ์ที่แย่ เครียดทำให้คนหลายๆคนใกล้ตัวแย่ไปด้วย การที่ไม่มีเวลาให้กับใครเลย เริ่มรู้ว่า การที่จะได้เป็นใหญ่เป็นโต มันยากมาก เพราะต้องแข่งกันกับเพื่อนๆที่ทำงาน และตำแหน่งที่สูงเงินเดือนมากๆ ที่ว่างน้อยลงทุกที จนวันสุุดท้ายที่ลาออก 

รวมไปถึงวันแรกที่ว่างงาน มีความสุข เห็นคนอื่นไปทำงานแต่เราสบาย ไม่มีใครมาสั่งมาสอน ไม่ต้องทำอะไร ว่างไปวันๆ จนเริ่มรู้สึกเหงาที่ไม่มีเพื่อนเลย ไม่มีอะไรทำเลย เริ่มจิตตก กังวล มองโลกแง่ร้าย กลัวคนนู้นว่าคนนี้นินทา เริ่มนิสัยเสีย หาเรื่องไปวันๆ ไปจนวันสุดท้ายที่ว่างงานเลยทีเดียว

เป็นงานเขียนที่สนุกมาก มีสาระพร้อมไร้สาระได้ตลอดเวลา มีมุขฮาเรื่อยๆ คติสอนใจจากคนอื่นๆ รวมถึงตัวเขาเองด้วย นอกจากนั้นมีเรื่องเกียวกับการลงทุนอยู่ในเนื้อเรื่องด้วย แม้จะเป็นเพียงเบื้องต้น แต่สำหรับ "คนที่อยากจะรวย" ต้องรู้เท่านั้น 

ส่วนที่ผมชอบและข้อคิดต่างๆ เล็กๆน้อยๆนะครับ 
  • บางครั้งการทำงานหนักเกินไป ผลที่ตามมาอาจไม่คุ้มค่าเลย
  • การทำงานที่ดี คือทำให้สิ่งที่ชอบ ไม่ใช่การทำงานที่ได้ผลตอบแทนสูง
  • คนจนคือคนที่ใช้จ่าย มากกว่า รายได้ และไม่คิดถึงอนาคต
  • อะไรสักอย่างที่เราคิดว่าดีไปหมด แท้จริงแล้วมันไม่ใช่ มันมีอะไรแย่ๆ แฝงอยู่แน่นอน
  • หลายคนที่มีงานทำอาจะอยากว่างงาน แต่หลายคนที่ว่างงานอยากมีงานทำ
  • การที่คนจะเกษียรได้อย่างมีความสุข อาจไม่ใช่การว่างงาน แต่เป็นการทำงานอะไรบางอย่างที่เหมาะกับตนและชอบที่จะทำมันมากกว่า


No comments:

Post a Comment