สำหรับถ่านหิน ผมมองหลายๆอย่างที่ทำให้ผมกลัว
เพิ่มเติม ด้านล่างนะครับ หลังจากแชร์ความคิดเห็น (อาจมีเพิ่มอีกนะครับ)
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องน้ำมันก่อน คล้ายๆถ่านหินนี่ล่ะ
ขอเข้าเรื่องน้ำมันก่อนนะครับ เมื่อก่อนปี 52 ราคาน้ำมันขึ้นมาแบบไม่หยุด จาก 40ดอลล่า มาเป็น 100ดอลล่า ต่อด้วย 140 ดอลล่า ช่วงนั้นบ้านผมทั้งบ้านมี PTT ทั้งบ้าน ส่วนผมก็ PTT Only In port เลย ตอนช่วงราคาน้ำมัน ขึ้นมาถึง 100 บาท ทั้งนักวิเคราะห์ วิจารย์ ต่างมั่นใจว่า ไม่ทะลุ แต่พอทะลุ ทุกคนเลยเชียร์ซื้อ ตอนนั้น บัฟเฟต์ก็ซื้อ (ไม่ได้ว่าบัฟเฟต์นะครับ) แม่ผมเลยซื้อเพิ่ม แถวๆ 400 ผู้เชียวชาญทางด้านน้ำมันก็ซื้อ (ได้ยินว่า 440บาท) ของผมก็เต็มพอร์ท
ช่วงนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง ราคาน้ำมันขึ้น คนโวยวายกัน แต่ที่สำคัญคือ รถส่วนใหญ่เริ่มติดก๊าซ โรงงานต่างๆเลิกใช้น้ำมันไปเลย เปลี่ยนเป็นถ่านหิน แต่ผมกับบ้านผม ก็ไม่ได้สนใจอะไร จนสุดท้าย คนที่ต้องการน้ำมันเหลือน้อยลง มีแต่คนเก็งกำไร
ราคาน้ำมันลงจาก 140 มาที่ 100 ตอนนั้นเริ่มเกิดวิกิตแล้ว แต่คนก็ยังไม่รู้เรื่อง (ถ้าคนรู้ วิกิตมันเกิดไม่ได้ เพราะการเกิดวิกิต ต้องมีคนจำนวนมาก เสียหายรุนแรง) ก็ยังมีแรงเชียร์ บอกแค่ปรับฐาน เตรียมทำ new high บ้านผมก็เลยไม่ขายกัน เพราะยังเชื่ออยู่
จากนั้น ราคาน้ำมันตกมาที่ 40 นั้นล่ะ ตอนที่ผมขายPTTที่ 170 ก่อนที่จะลงมาที่ 140 จากจุดสูงสุด 440 เพียงเพราะคิดว่า ราคาจะสูงเหมือนอยู่บนสวรรค์ได้ตลอดเวลา
ที่ผ่านมา ก็มีตัวอย่างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม พลาสติก กลุ่มเดินเรือ(นานแล้ว) ยางพารา น้ำมันปาล์ม สุดท้ายแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่อยู่สูงได้ตลอดเวลา
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องต่อมา การเข้ามาทำธุรกิจ ของบริษัทอื่นๆ
ตอนนี้ผมเห็นว่า เริ่มมีบริษัทอื่นๆ ที่หันมาทำถ่านหินมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น earth TTA และบริษัทอื่นอีกมากมาย ที่จะหันมาทำด้วย แสดงว่าเป็นธุรกิจดาวรุ่ง บริษัทไหนทำก็ได้กำไร แล้วมันจะเป็นแบบนั้นจริงๆหรือ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
สำหรับตอนนี้ ถ่านหินเป็นพลังงานที่ถูกที่สุด เท่าที่ผมเข้าใจในตอนนี้นะครับ แต่ถ้าราคามันแพงขึ้นมามากๆ สุดท้ายคนก็เลิกใช้ถ่านหินไปเอง และหันไปใช้พลังงานตัวใหม่ ที่ถูกกว่า ในอนาคต (ตัวไหนไม่รู้)
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
อีกเรื่องที่ผมมอง คือการซื้อถ่านหิน อันนี้ผมไม่รู้นะครับว่า เขาซื้อขายกันยังไง อันนี้ผมคิดเองนะ ผมคิดว่า การซื้อเหมือง น่าจะซื้อ โดยเอาปริมาณถ่านหินที่คาดว่าจะมี กับราคาถ่านหิน ความเร็วในการขุดขึ้นมา แล้วคิดย้อนหลังเป็นดอกเบี้ยอัตราลดลง มั้งนะ ดังนั้น ถ้าวันนี้ ผมซื้อเหมืองมา ต้นทุนจากการซื้อ อาจจะถูกกว่าราคาขาย พอสมควร แต่อนาคตไปถ้าจู่ๆ ราคาขายลง แต่ต้นทุนเท่าเดิม ก็เตรียมทำไปขาดทุนไปได้เลย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
ข้อดี ที่เพิ่มขึ้น จากการดูของคนอื่น
Ong Fhaumnuaypol
ผมมีความเห็นเกี่ยวกับ banpu หุ้นตัวนี้ราคาผันผวนรุนแรง
Werawat Buranateerakij
ลองดูที่ บ้านปู ซื้อ hunnu ยังไงราคาขายก็มากกว่า ราคาซื้อแน่นอนคับ จําได้ว่าราคาซื้อ น้อยกว่า 10usd แต่ราคาขายมากกว่า 90usd รวมทั้งการผลิต ยังไงก็ต้นทุนถูกกว่า นํ้ามัน และก๊าซ เพราะอยู่ไม่ลึกเท่า ผมไม่มีหุ้นนะ แต่แชร์เพราะเคยอยู่ในธุรกิ
ถ่านหินถ้าศึกษาดีๆก็มี bituminous มี emission ตํ่ามากกว่า ลิกไนต์ และค่าความร้อนสูง technology มี low nox burner และ FGD ก็เรียกว่าสะอาดแล้ว ประเทศพัฒนาแล้วที่ใส่ใจสิ่
นํ้า ลองดูจํานวน mw ทีผลิตได้ ยังไงก็ไม่สูงพอ รวมทั้งต้องห่วงเกษตรกรรมด้
Peera Chatchaiwong
ต้นทุนถูกสุดเป็น พลังน้ำ (เขื่อน) <1 baht/kW-hr แต่ไม่มีที่ให้สร้างล่ะ , Nuclear 1.x ต้นๆ , ถ่านหิน 1.8 , Gas 1.7 - 2.x ขึ้นกับแหล่งที่ผลิตก็าซ , น้ำมันเตา >5 บาท , Solar or Wind >6 บาท , แหล่งที่มา จากคนรู้จักผมที่ กฟผ และ BLCP
ส่วนภาพรวมทั่วโลก ผมว่ายังไงก็ต้องพึ่งถ่านหิ
ผมเห็นด้วยนะครับ เรื่องคนเลิกใช้ถ่านหินเพราะอยากอนุรักษ์ ถ้าจะเลิกจริงๆ ก็คือการหาพลังงานที่ถูกกว่าแล้วยอมรับได้ (ซึ่งตอนนี้ยาก) ตามที่คุณ Peera บอก พลังงานน้ำ ตัดไป เพราะไม่มีที่แล้ว nuclear ตัดไป คนไม่ยอมแน่ๆ Solar wind แพงไป
ที่เหลือก็ ถ่านหิน 1.8 (อนาคตน่าจะสูงขึ้น) Gas 1.7-2.x อันนี้ ปันหาคือการขนส่งนี่ล่ะ จบเลย ส่วนน้ำมัน >5 ก็อีกนาน จนกว่าราคาถ่านหินจะแพงกว่านี้อีกซัก 2-3 เท่า แบบนี้ ผมสักเริ่มสนใจแล้วนะ อิอิ
ขอบคุณครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
ทั้งหมดเป็นเพียงความคิดด้านนึงของผมเท่านั้น และถ้าผมจะซื้อ ผมก็จะซื้อในช่วงที่แย่ แย่จริงๆ เหมือนช่วงที่ราคาน้ำมันลงมา 40 ดอลล่า ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่นะครับ
ฟังหูไว้หูนะครับ ลองคิดดูนะครับ เรื่องเงินๆทองๆ ไม่เข้าใจออกใครนะครับ
No comments:
Post a Comment