Saturday, April 21, 2012

แอบดู TOG


เห็นมีข่าว แล้วใน stock2morrow มีคนถาม แล้วมีคนถามผมด้วย ว่ามีความคิดเห็นยังไง (บังเอิญช่วงใกล้ๆกันพอดี)

ผมว่านะ หุ้นที่มีข่าวแล้วบอกว่าดี ส่วนใหญ่แล้วมักถึงจุดสูงสุดของมันแล้ว ที่มันมีข่าว ก็เพื่อว่าจะได้ให้รายย่อยเข้าซื้อ แค่นั้นเอง นานๆทีจะมีซักตัวที่ขึ้นไปต่อ ต้องระวังมากกว่า

นอกจากนี้ การดู downside ก่อนดู upside น่าจะดีกว่า (อย่างน้อยก็ผมคนนึงล่ะ)

เรื่องข่าว เห็นอยู่ 2 เรื่องนะ 

เรื่องแรก เรื่องการผลิต เลนต์กันกระแทก 

เห็นว่าเป็นบริษัทเดียวในโลก ที่ทำเลนต์นี้ได้ ผมเองก็ไม่รู้รายละเอียดนะ แต่ว่าพวกนี้ค่อนข้างจะเลียนแบบได้ง่าย หรือเปล่า อันนี้ต้องดูกันต่อไป 

เรื่องที่สอง ก็เป็นเรื่องการ turn around ของ TOG

เรื่องนี้ผมเห็นว่า "คิดได้ไง" เพราะว่า ปีที่ผ่านมา น้ำท่วม บริษัทไหนน้องน้ำมาหา ก็มีอันเป็นไปหมดล่ะ ถึงน้ำไม่เข้าโรงงาน ก็ขายของไม่ได้ล่ะ รายได้ก็ไม่มี มีแต่รายจ่าย ยังไงก็ขาดทุน ไม่ก็เท่าทุน
ปีนี้ถ้าไม่มีอะไร รายได้ ก็ควรจะเข้าสู่ปกติ กำไรก็เข้าสู่ภาวะปกติ
แต่  เมื่อเทียบกำไรกับปีที่น้ำท่วม ยังไงก็ขึ้นมหาศาลล่ะ ไม่ต้องลุ้นเลย

มาดูหุ้น ด้วยวิธีผมกันดีกว่า อิอิ

==========================================================

เรื่องของสินค้า 

1 สินค้าที่ใช้แล้วหมดไป

สำหรับสินค้าอย่างเลนต์นี้ ผมก็ไม่นึกนะ ว่ามันมีอายุด้วย เห็นว่าอายุประมาณ 3 ปีเอง ว่าไปเถอะถ้าผมใช้จริง แตกตั้งแต่ปีแรกแล้วล่ะ

จากที่อ่านใน 56-1 เลนต์นี่ จะเปลี่ยนทุกๆ 3 ปี แต่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ ไม่พัง ไม่แตก ก็ไม่ซื้อใหม่หรอกครับ

2 สินค้าที่อาจมีการทดแทนได้ง่าย

แว่นก็คือแว่น การแข่งขันเท่าที่อ่านดู ก็ค่อนข้างรุนแรงมากนะ เพราะ ทำไม่ยากมากนัก (เอากระจก หรือ พลาสติก มาหลวมเป็นเลนต์) ถึงจะบอกว่าทำเลนต์แบบใหม่ แต่ผมไม่ค่อยเชื่อว่าจะเป็นบริษัทเดียวที่ทำเลนต์พิเศษได้ตลอดเวลานะครับ อาจมองโลกแง่ร้าย แต่ชัวร์ไว้ก่อนดีกว่า

คอนแทคเลนต์ สินค้าที่เกือบทดแทนแว่นได้เลยช่วงนึง เพราะ บางคนไม่ชอบแว่น ใส่แว่นแล้วหน้าตาเปลี่ยนไป บางคนใช้เป็นเครื่องตบแต่งด้วยซ้ำ อย่าง บิ๊กอาย ที่ใส่แล้วทำให้ตาดำดูใหญ่ขึ้น หรือแบบสีต่างๆ ที่ทำให้สวยขึ้น(จริงหรือ) นอกจากนั้นยังมีพวกบ้าการ์ตูน เอามาใส่เลียนแบบอีก (ผมก็เคยเกือบซื้อมาใส่เหมือนกัน 555)

ราคาค่อนข้างถูกต่อเลนต์ในแต่ละคู่ด้วย (ที่จริงแพงนะครับ ถ้ามองดีๆ มันจ่ายเป็นรายวัน รายเดือน ขูดเงินในกระเป่าได้โดยไม่รู้ตัวเลยล่ะ นอกจากนั้น ถ้าใช้ผิด ใช้ของปลอม ตาบอดไป นับมูลค่าความสูญเสียไม่ได้เลยนะครับ)

เลซิก อันนี้เขียนไม่ถูก เป็นบริการที่ทดแทนสินค้า เลนต์ นะครับ เห็นพี่ผมไปทำมา จากคนสายตาสั้นมาก ทำออกมา สายตาเป็นปกติเลยครับ ดีกว่าผมอีกมั้ง แต่ราคาก็ค่อนข้างจะสูงนะครับ

เลนต์ คุณภาพต่ำ จากจีน (อีกแล้ว) ก็เข้ามาตีตลาดด้วย ทำให้คนที่มีงบน้อย ก็หันไปหาเลนต์จากจีนกัน เพราะ ราคาที่ต่างกันมากๆ เป็น 100 เท่าเลยมั้ง

3 สินค้าที่มีแบรน และคนซื่อสัตย์ในแบรนด้วย

ไม่เห็นแบรด์ชัดๆนะครับ เหมือนแค่รับทำเลนต์เฉยๆ ไม่ได้ทำอย่างอื่นด้วยเลย 

4 คู่ค้า

อ่านใน 56-1 นะครับ เห็นว่ามีผู้ผลิต และจำหน่าย ไม่กี่หลายเองนะครับ ยิ่ง monomer พลาสติก ยิ่งมีรายเดียว ถ้าจู่ๆ เขาขึ้นราคา หรือยกเลิกการส่งให้ก็อ่วมนะครับ

แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ดี เพราะทำมานานมากแล้ว ก็ไม่ค่อยมีปันหามากนักซักเท่าไร (ตาม 56-1) 

ลูกค้า


ส่วนใหญ่ (ทั้งหมดเลยดีกว่า 95%) เป็นต่างประเทศ ดังนั้น การขึ้นลงของค่าเงิน มีผลโดยตรงแน่นอนครับ แถมส่งไปทาง ยุโรป ซะเยอะเลย

แต่ก็ยังดี ที่ลูกค้าส่วนใหญ่ เป็นรายย่อย (ร้านแว่น) มากกว่า ไม่มีเจ้าไหนที่มาสั่งทำทีมากๆนัก


6 คู่แข่ง

ในประเทศ ก็มีคู่แข่งมากมาย แต่ผมไม่รู้ว่าคู่แข่งเป็นอย่างไรบ้างนะ แต่เลนต์พวกนี้ ต้องเอาราคาเข้าสู้ บริษัทไหนต้นทุนต่ำ ก็ได้เปรียบไป แต่ผมว่าแข่งแบบนี้ไป สุดท้ายคงไม่ต่างจาก ธุรกิจ ทอผ้า หรือที่เรียกว่า ตะวันตกดิน ยิ่งเจอจีนมาเป็นคู่แข่งด้วย 


7 วัตถุดิบ การสินค้าโภคภัณฑ์

พลาสติก กระจก ที่จริงเป็นสินค้าโภคภัณฑ์นะ เพราะอันไหนก็ไม่น่าต่างกันเท่าไรนัก แต่ราคากระจกคงไม่ผันผวนมาก แต่พลาสติกไม่แน่ อย่าลืม PTL AJ พวกนี้นะ ติดดอยไปหลายคนเลย

8 โอกาสการเติบโตของสินค้า บริการ

มองแล้วค่อนข้างเหนื่อยนะครับ เพราะต้องเป็นคนที่ ต้องการใส่แว่น จริงๆ และต้องเป็นแว่นที่ดีด้วย

คนไม่ต้องการใส่แว่น ก็มีคอนเทคเลนต์ กับ เลซิก เป็นตัวเลือก 
คนที่ต้องการแว่น อาจเลือกแว่นราคาถูกจากจีน ก็เป็นไปได้อีก

นอกจากนั้น สินค้าพวกนี้ เก็บได้ น่าจะนานอยู่ ค่อนข้างยากที่จะประเมินว่า ตลาด ขาด หรือเกิน แต่คิดว่าส่วนใหญ่เกินนะ

ความหวังคงเป็น แฟชั่น สาวแว่น ประมาณนั้นมากกว่า เมื่อดาราทุกวงการ หันมาใส่แว่น แบบนั้นนะ


เรื่องของตัวบริษัท งบการเงิน

1 สินทรัพย์ หนี้สิน ส่วนของผู้ถือหุ้น
หนี้น้อยดีแต่หนี้หมุนเวียนซะเยอะ แต่ก็ถึอว่าน้อยมาก หากเทียบกับสินทรัพย์ 
สินทรัพย์ ไปหนักทาง ที่ดินอาคารอุปกรณ์ ซะเยอะเลย ไม่ค่อยชอบเลย 
สินค้าคงเหลือ ก็ค่อนข้างเยอะมาก สำหรับโรงงานที่ผลิตสินค้าส่งไปให้บริษัทอื่นนะครับ
กำไรสะสมไม่เยอะมากนัก

2 รายได้ กำไร ROA ROE อัตรากำไรสุทธิ

รายได้เมื่อเทียบสินทรัพย์ ไม่ค่อยดีเลย 
แต่อัตรากำไรสุทธิ ค่อนข้างดี และสูงพอตัว เกือบ 10 % เลย
แต่ ROA ROE ต่ำกว่า 10 ในระยะยาว อาจทำลายความมั่นคั่งได้เลยนะ 
และ ความหวังที่กำไรจะโตขึ้น ดูท่าจะลางเลื่อนนะครับ ถ้าใครได้ราคาต่ำจริง ก็ดีไปนะครับ ตัวนี้ หวังแค่ปันผล ก่อนจะดีกว่า

3 รายได้ และ รายจ่าย (ผมเอาของปีก่อนนะครับ ปีนี้ผิดปกตินะครับ)

ปีนี้จะมีรายได้จากการเคลมน้ำท่วมมานะครับ ระวังรายได้ปีหน้าจะสูงผิดปกติด้วย
สำหรับปีก่อน รายได้ทั้งหมดมาจากการผลิตขาย ถือว่าดี ไม่มีรายได้อื่นมาเบี่ยงเบน

รายจ่าย ต้นทุนการขาย 72% ถือว่าดี
แต่ต้นทุนการบริหาร 10% ก็เยอะอยู่ 

รายจ่ายทั้งหมดเป็น 86% ของรายได้ ก็พอใช้ได้อยู่

เรื่อง ผบ

1 บริษัทที่พึ่งเจ้าของมากเกินไป

อันนี้ไม่รู้นะครับ แต่ปีที่แล้วเห็นว่าผบพูดซะไปไกล น้ำท่วมทีเดียว ดับเลย 

2 บริษัทที่ทำหลายอย่างเกินไป ออกนอกความถนัดเกินไป ชอบทำตามคนอื่น ขยายตัวรุนแรง

อันนี้ทำอย่างเดียวเลย ที่จริงถ้าผลิตเอง เอาไปขายเอง สร้างแบนด์ เองคงจะได้กำไร และรายได้ดีกว่านี้ล่ะ 



No comments:

Post a Comment