ตอนเช้าเราก็ไม่แน่ใจรถจะติดไม(พูดเหมือนมีรถ) คนจะเยอะไม เลยรีบออกแต่เช้าเลย
ขึ้น BTS ไปลงอโศก (ปล.ไปเอาใบประชุมของแฟนหน่อย) แวะกินมาม่าคัพข้างCPALL แก้ร้อนหน่อย (ทีนี้ร้อนโครตเลย)
แล้วก็เดินมาถึงจนได้ เหงื่อแตก ปากแดง ลิ้นพองเลย ไม่น่ากินมาม่าเลย ก็ตอนนี้ 7 โมง (ประชุม 9 โมง เจริญล่ะ)
บรรยาการตอนเช้า
ตอนมาได้รับมอบฉันทะไป 5 ราย ได้ถุงมาเต็มเลย
อาหารกล่อง 6 กล่อง รอดไปอีก 6 มื้อ
หนังสือประชุมผู้ถือหุ้น ดันอ่านไม่ทันซะงั้นล่ะ
หน้าตารายชื่อ ท่านกรรมการต่างๆ
บรรยายกาศภายใน
กระเป๋าลายซะขนาดนี้
ที่จริงผมว่าแจกเสื้อเลยดีกว่านะ จะได้โฆษณาไปในตัวเลย
บรรยายกาศในที่ประชุม
คุณ กิติชัย (อยากไปถ่ายรูปด้วย แต่ตัวเหม็นๆ แต่งตัวเน่าๆ เลยเกรงใจ เดียวนึกว่าขอทาน)
วันนี้ได้ไปคุยกับ พนักงานก่อนประชุม ก็เรื่อง BLA นี่ล่ะ พูดไปพูดมา เลยถูกชวนมาทำงานที่ BLA เป็นนักวิเคราะห์ ซะงั้น
เริ่มการประชุมเลยนะครับ
วาระที่ 1 รับรองรายงานการประชุม 54
วาระที่ 2 รับทราบผลการดำเนินการ 54
- สิ้นปี 54 มี สินทรัพย์เพิ่ม 27%
- สำรองเพิ่ม 29%
- อัตราความพอเพียงของกองทุน 222% (ตัวเลขนี้ไม่มั่นใจนะครับ จดไม่ทัน) ตามปกติ 125%
- รายได้ FYP -9% เกิดจากปีก่อนมีเบี้ยสั้นๆ ที่ขายดีเยอะ แต่ปี 54 ไม่มี
- RYP +35%
- TP เพิ่ม
- โดยเบี้ยมาจาก Bank FYP -9% RYP +72% TP+32%
- เทียบกลุ่มอุสหกรรม FYP เฉลี่ย 5.19% (BLA -9%) RYP 10% (BLA 29%)
- ลงทุน ตราสารหนี้ 88% หุ้น 7.6%
- รายได้รวม +28%
- ROI 5.3 ลดลงจากปีก่อน
- ค่าใช้จ่าย 12% (เทียบ TP 4.3%)
- ROE 28% ลดลง
- EV 21.17 (+16.36%) VNB 1.34 (-24.36%) เกิดจากการปรับใช้เกณฑ์การกองทุนบำรุง (จดไม่ทัน) ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น
ขออภัย จดไม่ทันจริงๆ คุณ ชาณ พูดน้ำไหลไฟดับเลย
- เป้าหมายปีหน้า
- FYP +12.6%
- RYP +8.8%
- TP +9.9%
และแล้ว คุณ กิติชัย ก็ประเดิมเลยครับ
Q
- นโยบายการตั้งสำรอง จะตั้งเท่าไหร่ เพราะปีที่ผ่านมา 3 ไตรมาสแรกก็ตั้ง 60 ไตรมาสสุดท้าย ตั้ง 80
- จะบริหารอย่างไรให้ FYP ได้ดังเป้าหมาย (12.6%) หรือจะขายเบี้ยระยะสั้นอีก เบี้ย 2 ปี เหมือน2-3ปีที่ผ่านมา
- เห็นว่าตั้งเป้าหมาย ขยายตัวน้อยกว่ากลุ่มอุตสาหกรรมอีก ทำไม
- เรื่องการตั้งสำรอง จะใช้เกณฑ์ จากคปภ คือ GPV กับ NPV โดย GPV จะ mark to market ทำให้เมื่อดอกเบี้ยลง ก็ต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้น ซึ่งทาง BLA จะเลือก GPV หรือ NPV ก็ขึ้นอยู่กับว่า ตัวไหนต้องสำรองสูง (เลือกตัวที่สูงกว่าเสมอ) และในปีนี้คาดว่าสำรอง 62-66%
- ปีนี้จะออกเบี้ยระยะสั้นอีก แต่จะไม่ให้ออกมามากเกินไป เพื่อลดความเสี่ยง สำรองลง (เบี้ยสั้นจะต้องสำรองสูงกว่าเบี้ยระยะยาว
- การทำธุรกิจ ขึ้นอยู่กับการสร้างผลตอบแทน ปันหาคือเกณฑ์ การตั้งสำรองของประกันหลัก จะลดภาษีได้ 65% แต่เบี้ยสั้นๆ จะต้องสำรองมากกว่านั้น (น่าจะหมายถึง พยายามขายเบี้ยทั้งสั้นและยาว เอาให้ลงตัวที่ 65% พอดี)
วาระที่ 3 อนุมัติ งบดุล งบกำไรขาดทุน
Q
- ทำไมผลตอบแทนจากการลงทุนมันลดลง (ลงทุกปี) แล้วปีนี้จะได้เท่าไร
- นโยบาย 54 ทำไมลดการลงทุนในหุ้น แล้วปีนี้จะลดการลงทุนในหุ้นต่อหรือไม่
A
- ปีนี้คาดว่าจะได้ 5.03% (ลงไปอีก)
- สำหรับหุ้น จะเน้นระยะยาวจากเงินปันผล และราคาหุ้นในอนาคต โดยจะลงทุนไม่เกิน 10% ของเงินลงทุน และในทุกปี ก็จะมีเบี้ยใหม่มาเรื่อยๆ ทำให้สัดส่วนการลงทุนในหุ้นลดลง เพราะไม่ได้ลงทุนเพิ่มเติม ส่วนเรื่องที่จะลงทุน ต้องดูสถาวะด้วย
วาระ 4 ปันผล กำไรสะสม
Q อัตราส่วน เงินกองทุน ต่อ ความเสี่ยง ประมาณ 200% (เมื่อกี้ที่เขียน 222% น่าจะเป็นตัวเดียวกันนะครับ) ตอนนี้ ผบ เห็นว่า มากไป น้อยไป แล้วที่เหมาะสมคือเท่าไร
ในอนาคตถ้าเงินกองทุนมากไป จะมีโอกาสจ่ายเป็นเงินปันผลมากขึ้นไม อย่าง SCBLIF ยังทำได้เลย
A ความเพียงพอมาจาก Rich Chart จาก ระยะเวลาสินทรัพย์ลงทุน ต่อ ระยะเวลาหนี้สิน (จดไม่ทัน) โดยพยายามยึดสินทรัพย์ลงทุนให้มากขึ้น ระดับที่คิดว่าเหมาะสมคือ 250% ของ CAR ratio ซึ่งตอนนี้อายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ ก็เพิ่มขึ้นจากปี 53 ที่ 7.55ปี เป็น 8.6ปี ในปี54 จะช่วยลด Rich Chart ไปได้ รวมไปถึงการออกแบบประกันแบบใหม่ๆ ก็ช่วยลดต้นทุนเพื่อใช้เป็นระยะยาว
Q ถ้าอนาคต เงินเกิน 250% แล้ว จะเพิ่มปันผลไม
A มีความเป็นไปได้ แต่ต้องดูว่า มีโอกาสลงทุนในด้านอื่นๆ หรือไม่
เสริม ทุกครั้งที่ต้องจ่ายเงินปันผล ก็ต้องของ คปภ ก่อน เลยไม่อยากขอ ถ้าคิดว่าจะถูกปฎิเสธ แต่ถ้ามั่นใจ ก็จะขอให้
Q ทำไมปีนี้คิดว่า ROI 5.03% เอง แย่ลงไปอีก (ปีก่อน 5.3 5.4 ลดมาเรื่อยๆเลย)
แล้วก็ SCBLIF ปันผลตั้ง 30 บาท ทั้งที่งบ BLA กับ SCBLIF ก็แข็งพอกัน
A เรื่อง Payout ratio BLA ,SCBLIF มีการจ่ายเงินปันผลต่างกัน เพราะภาระผูกพันธ์ ต่างกัน และก็ไม่รู้ด้วยว่า SCBLIF เป็นอย่างไร
อัตราผลตอบแทนจาก Yield Cave ก็ลดลงมาก ถ้าถือเงินในระยะสั้น ก็ทำให้ความพอเพียงต่ำลง เลยต้องลงทุนในตราสารหนี้ที่ดอกแย่ ( 10ปี 3.5%) ทำให้ผลตอบแทนเฉลี่ยลดลง เลยคิดว่าปีนี้ 5.03 %
(ประมาณว่า ปีก่อนๆ ดอกเบี้ยสูง แต่ปีหลังๆ ดอกต่ำลง แต่ยังได้บุญเก่าจากปีก่อนๆเยอะ)
วาระที่ 5 พิจารณาแต่งตั้งกรรมการ
วาระที่ 6 ค่าตอบแทน น้อยกว่า 14ล้าน (ปีก่อน 13ล้าน)
วาระที่ 7 พิจารณา ผุ็สอบบัญชี
วาระที่ 8 อื่นๆ
Q
- ทำไม ปีที่แล้ว FYP ลด ทั้งที่ค่าเฉลี่ยโต SCBLIF ยังโตเลย
- ทำไมไม่ทำการขายช่องทางอื่นบ้าง อย่างSCBLIF ยังจับมือโลตัสเลย มีตั้งหลายทาง ทำไมไม่ทำบ้าง จะเป็นที่ 5 แล้ว
- SCB ก็มีประวัติ จ่ายปันผลน้อยทุกปี แต่ปีนี้เป็นปีแรก เลยอยากให้ BLA จ่ายปันผลเยอะๆบ้าง จะได้ทำให้ ROE สูง DIV สูง คนจะได้สนใจ
ตบมือกันใหญ่ ผบยังตบมือเลย ตกลงยังไงนี่
A ผบตอบย้อนจาก 3 มา 1นะ แต่ผมแก้ให้นะ
- เรื่องว่าทำไมโตน้อย ตอบแล้วนะ ส่วนปีนี้ โตยังไง ก็จะพัฒนาแบบประกันให้มีแบบใหม่ที่ดีขึ้น รวมไปถึงการบริหารความเสี่ยงด้านการเงิน การพัฒนาผู้ขายประกัน เป็นผู้วางแผนทางการเงิน ก็น่าจะช่วยให้เบี้ยประกันโตขึ้น
- กำลังมุ่งเน้นใช้ช่องทางหลักให้แข็งแกร่งที่สุด แต่ก็มีการเริ่มให้ธนาคารขนาดกลางและเล็ก มาช่วยขายด้วย (เพิ่มช่องทาง)
- Payout ratio ,Car ratio SCBLIF จะลงทุนหุ้นน้อยมาก เป็นตราสารหนี้เยอะ นอกจากนั้นยังเน้น คุ้มครองเครคิตเยอะ ซึ่งเป็นเบี้ยระยะยาวกว่า ทำให้ CAR สูง BLA มีค่า CAR ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม เลยทำให้จ่ายปันผลมากไม่ได้
Q การโฆษณา BLA คิดว่าจำเป็นหรือไม่ เพราะการควบคุมค่าใช้จ่ายของกลุ่ม Bank ขายประกัน BLA ค่อนข้างควบคุมได้ดีเยียม แต่ก็อยากให้มีการโฆษณาบ้าง นะครับ
A มีการตั้งงบโฆษณามากขึ้นเยอะในปีนี้ แต่ก็ต้องระวังเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะตามมาด้วย
เสนอแนะ อยากให้มีขายประกันแบบพิเศษ ให้กับผู้ถือหุ้น เพื่อจูงใจ และให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าธรรมดา
Q ได่ยินมาว่า จะมีรายได้จากการขายหน่วยลงทุน คิดว่าจะได้กี่ %
(อันนี้ฟังไม่ชัด แต่คาดว่าจะหมายถึง คนขายประกัน ที่จะนำเสนอ ทั้งประกันชีวิต ประภัย หน่วยลงทุนอื่นๆด้วย )
A มีทิศทางให้ตัวแทนเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน แบบ One Stop Service รวมไปถึงประกันชีวิต ที่มีส่วนของการลงทุนด้วย ส่วนเรื่องรายได้จากจะหวังผลตอบแทนของการขายประกันชีวิตเป็นหลัก ไม่เน้นอย่างอื่นมากนัก
อนาคตไป จะมีประกันแบบ Unit Link ด้วย ซึ่งจะได้รับผลตอบแทนเพิ่ม ถ้าBLA ทำ ROI ได้ดี แต่จะมีขั้นต่ำให้ดี เผื่อทำ ROIไม่ได้ตามที่ขาด (ซวยดิ ขาดทุนเลยนะ)
Q เรื่อง Unit Link AIA ทำแล้ว แล้วBLA เมื่อไหร่จะทำ แล้วมันค่อนข้างซับซ้อน กว่าจะสอนตัวแทนให้เข้าใจแล้ว ต้องใช้เวลา แล้วคิดว่าเมื่อไรจะมี
A อยู่ในการเตรียมการ แต่ Unit Link ไม่สามารถ ลดภาษีได้ แถมต้องสำรอง 90% เลยไม่ค่อยเหมาะกับปัจจุบันนัก ตอนนี้กำลังติดต่อกับรัฐบาลอยู่
Q เห็นมีกรรมการญี่ปุ่นอยู่ด้วย ไม่ทราบว่ามี ลูกค้าเป็นคนญี่ปุ่น หรือไปขายในประเทศญี่ปุ่นหรือไม่
A เขาช่วยขยาย เช่น ธุรกิจประกันภัยกลุ่ม ของบริษัทญี่ปุ่น นอกจากนี้ เขายังมีประสบการณ์มากว่า ยาวนานกว่าเราเยอะ เราก็ได้แนวคิดดีๆจากเขามามากเหมือนกัน
เสนอแนะ อยากให้โฆษณามากขึ้น และตลาดผู้สูงวัยในประเทศไทย เยอะขึ้นมาก แต่ BLA กลับไม่มีในส่วนนี้เลย เลยรู้สึกเสียดายแทน
Q สรุปเรื่องการเติบโต ปีหน้าเบี้ยโต 9% มันจะโตต่ำกว่าอุตสาหกรรมโดยรวม อย่างเดือน 1-2 ก็ได้ที่ 4 ไปแล้ว แพ้อีกแล้ว
A พยายามรักษา และขยายตัวอยู่ และกำไรสำคัญมาก จะพยายามรักษาสมดุลในการขยายตัวธุรกิจ กับกำไร อย่างปีก่อนก็เกิดปันหาไปแล้ว
(คาดว่า เบี้ยระยะยาวที่สำรองต่ำ มันค่อยข้างจะขายยากกว่าเบี้ยระยะสั้น ที่สำรองสูง เลยโตมากไม่ได้ ไม่งั้นโดนภาษีเล่นงานอีก เหมือนปีก่อน)
Q อยากเห็นความร่วมมื่อระหว่าง BLA กับ BBL อย่างเรื่องข้อมูลบัตรเครดิต ที่โทรมาก็มีแต่ BKI ทั้งนั้นเลย BLA หายจ๋อมไปเลย เพราะ Credit life ก็สำรองต่ำ เมื่อเทียบกับ ประกันขายผ่านแบงค์
A เห็นด้วย
(เฮ้ ตอบงี้ได้ไงอ่า)
จบการประชุมนะครับ ก็ยังไงข้อมูลผิดพลาด เขียนผิด ฟังผิด ก็ขออภัยนะครับ
อึ้งเลยคำตอบสุดท้าย
ReplyDeleteมึนเหมือนกันครับ
Delete