วันนี้ได้มีโอกาสมาประชุมผู้ถือหุ้นของ Kamart หุ้นร้อนแรงแห่งปี 12เท่าในปีเดียว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลธุรกิจหลัก
อุ๊ย เห็นพุงผมเลย
ก็อย่างว่า เราต้องใจมาประชุม แต่สมองย่อมขาดน้ำตาลไม่ได้ ซักหน่อยก่อนประชุมล่ะกัน
หนังสือรายงานผู้ถือหุ้น ครึงแรก ไทย ครึ่งหลัง อังกฤษ
ก่อนเริ่มการประชุม ผมสังเกตุว่า ไม่มีแจกใบ เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ไม่ออกเสียง มานะครับ แปลกมากเลย จากที่ไปประชุมมาหลายๆที
ประชุม kamart
วาระที่ 1
รับรองการประชุมปี 54 และเรื่องประกาศลดทุน ล้างขาดทุน
วาระที่ 2.1
แจ้งผลการดำเนินงาน รายได้ที่เพิ่ม กำไรที่เพิ่ม จากการขยายธุรกิจใหม่
วาระที่ 2.2
จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวด ไตรมาส 1 โดยได้หุ้นล่ะ 0.05บาท
วาระที่ 3.1
พิจารณา อนุมัติงบดุล กำไรขาดทุน
เป็นปีแรกที่ รับรองโดยไม่มีความเห็น (เพราะไม่ขาดทุน)
วาระที่ 3.2
แต่งตั้งผู้สอบบัญชี ค่าตอบแทน
วาระที่ 3.3
เลือกกรรมการใหม่ ทดแทนกรรมการเก่า
ค่าตอบแทนทั้งปี ไม่เกิน 3 ล้าน
วาระที่ 3.4
งดจ่ายปันผล 54 (เนื่องจากลดทุนล้างขาดทุนสะสมไม่ทัน)
วาระที่ 4
อื่นๆ
ก็เริ่มถามกันวาระนี้ล่ะ เห็นเงียบมาตลอดทางเลย
ก็จะมีเรื่อง ผบ นิดหน่อย ที่พูดเร็วมาก จดไม่ทัน
Q การย้ายจากกลุ่ม ยานยนต์ มา ค้าปลีก ได้เมื่อไหร่
A เร็วๆนี้ ส่วนเรื่องที่ล่าช้า เกิดจากทางตลาดหลักทรัพย์รอประขุมในเดือนพฤษถา ทางบริษัทส่งเรื่องไป 2 รอบแล้ว
การย้ายก็อยู่ที่ตลาดหลักทรัพย์ด้วย ถ้ารายได้จากส่วนไหนมากกว่า 70% ก็จะทำการย้ายกลุ่ม
เพิ่มเติม การแจ้งเริ่มในปลายปีที่แล้ว มีการเจรจาแล้ว แต่ตอนแรกตลาดจะให้เป็นอีกหมวดนึง (คาดว่า อุปโภค บริโภค) และมีการออกต่อว่าตลาดหลักทรัพย์นิดหน่อย
Q ธุรกิจเดินรถ ที่รายได้ลง ขาดทุนเรื่อยๆ จะทำยังไง
A เดินรถเมล์ ท่าน้ำนนท์ สนามหลวง มาจากความคาดหวังด้าน NGV ที่มากเกินไป
รถเมล์ก็ทำไปเรื่อยๆ ในอีก 10 เดือน ก็จะผ่อนลิลซิ่งหมด และอีก 2 ปี ก็จะผ่อนของ Tisco หมด
โดยค่าผ่อน เดือนละ ล้านบาท แต่รายได้ 7-8แสน ทำให้ขาดทุนมาตลอด ที่เหลือก็รอผ่อนหมด กระแสเงินสดจะได้เป็นบวก
ตอนนี้ก็มีรถเมล์วิ่งให้บริการ IKEA ด้วย ได้เพิ่มอีก 7-8 แสนเหมือนกัน
เป็นธุรกิจที่เราไม่ถนัด ถ้ามีใครต้องการ ก็จะขายให้ทั้งที แล้วนำเงินไปขยาย KAMART ต่อไป
Q ร้าน kamart มีกี่สาขาแล้ว เป้าหมาย 100 สาขาปีนี้ เป็นยังไง
A ระหว่างรอเปิดมีเยอะ รวมๆแล้ว 50 สาขาได้ ต่อไปก็จะเปิดเรื่อยๆ ที่ภูเก็ตด้วย และจะมีสินค้าอื่นๆ นอกจากเกาหลี
โดยรวมแล้ว ยังมีจุดอ่อนอีกเยอะ ต้องแก้ไขไปเรื่อยๆ ต้องปรับปรุงอีกมาก แต่เป็นแนวโน้มที่ดีมากๆ และการหาสินค้าลงในร้านเพิ่มอีก
Q ลูกค้าหลักคือ คนขายสินค้า และ shop โดย คนรับ เยอะกว่า shop อีก ในปีต่อไป คิดว่าจะทำยังไง
A ช่วงเริ่มต้น ธุรกิจ มีการขายเยอะมากๆ เลยเกิดปันหาเรื่องราคามาก เพราะแต่ละที่ไม่เหมือนกัน อย่างตลาดนัดที่ทุนต่ำ หรือห้าง ที่ไม่ต้องการกำไรมากมาย ราคาเลยตัดกันเอง
อนาคตไป จะให้ shop เป็นศูนย์กลางการส่งของด้วย
ธุรกิจออนไลน์ จากบรรลุก็ต้องราคาถูก ส่งของไว ด้วย จากที่สำรวจในประเทศที่เจริญกว่าเรา มีการซื้อขายผ่านเน็ต 30% เลยทีเดียว เลยอยากให้ที่ shop กับ online เป็นราคาเดียวกัน แต่Online จะมีการแถมมากกว่า (แต่ตอนหลังกลับบอกว่าเหมือนกัน งงเลย)
ส่วน Shop ก็จะถูกชวนมากทำออนไลน์ และจะได้เป็นตัวแทนในการส่งสินค้าให้ kamart ด้วย เพื่อแบ่งกำไรด้วย
วิธีการคร่าวๆ คือ เมื่อ
- ลูกค้าสั่งสินค้าผ่านเน็ตและจ่ายเงินมา
- kamart ก็จะรับเรื่องและเงินไว้
- Kamart จะแจ้งให้ shop ที่ใกล้ ที่อยู่ลูกค้ามากที่สุด ดำเนินการส่งของ
- เมื่อลูกค้าได้รับสินค้า จะมีการเซ็นรับสินค้ามา
- Shop ที่ได้ใบรับสินค้ามา จะมาแจ้งทางkamart เพื่อรับเงิน
- กรณี Shop ไม่จัดการใน 3 ชม หรือไม่มีสินค้า ทางKamart ก็จะย้าย Shop เป็นที่อื่นที่ไกลกว่านิดหน่อย
นอกจากนั้น จะให้ shop ดำเนินการขายธุรกิจอื่นๆมาขึ้นด้วย
Q รายได้หลัก ตอนนี้มาจาก คนรับสินค้า ไม่ใช่ Shop
A คนรับสินค้า เป็นการขายให้กับรากหญ้าเลย อาจจะขายถูกกว่า หรือแพงกว่า Shop ก็ได้
หวังให้ Shop เป็นสัญญาลักษณ์ และเริ่มธุรกิจ Online แล้วด้วย นอกจากนั้น ทางบริษัทเองก็อยากหาผู้ที่จะมาลงทุนทำ stock สินค้าให้กับ Kamart ด้วย (ไว้ส่ง Online)
( ผมรู้สึกว่า ผบ ตอบไม่ตรงคำถามนะครับ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า)
Q เดียวนี้เริ่มมีสินค้าเลียนแบบมากขึ้น
A ขนาดว่ามีสินค้าอื่นๆ มาอยู่ใน SHOP เลยก็มีแล้วยังมีสินค้าเลียนแบบใน Shop ด้วย
Online ก็มีเวปไซด์ ใช้ชื่อ Kamart มากมายเลย ซึ่งกำลังหาทางแก้ไขอยู่
Q เกี่ยวกับ การจัดการ Stock
A เรื่องการทำ online เราไม่ได้ทำเหมือนที่อื่น อย่างเกาหลี โดยจะมีอาคารนึง ชั้นบนเป็นบริษัท ขายของทางอินเตอร์ และมีที่เก็บของไว้ ชั้นล่างเป็นบริษัท ส่งของ ทำให้การส่งสินค้าไวมากๆ
แต่kamart จะกระจายสินค้า ส่ิงเอง โดยใช้วิธี Shop ที่ใกล้บ้านเป็นผู้ส่ง และจะรู้หมดว่า Shop มีอะไรบ้าง ถ้ามีคนซื้อของ ก็ไปเช็คว่า ที่ไหนมี ใกล้ที่สุด เพื่อที่จะให้นำสินค้าไปส่ง
Q จะรู้ได้ไงว่า ลูกค้าได้รับแล้ว
A ต้องมีการเช็นรับสินค้า
kamart จะคุม partner หรือ shop โดยถ้าคนไหนไม่มีสินค้า หรือไม่ทำให้ ก็จะย้ายไปที่อื่นแทน
ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงทำ Software อยู่ โดยจะนำไปลงทุก shop เพื่อที่จะได้รู้ว่ามีอะไรบ้าง
อนาคตจะทำให้ online กับ shop ราคาเท่ากัน ของแถมเหมือนกัน จะได้ช่วยกันขายไปในตัวด้วย
ในระบบก็มีของ ของก็มีในสาขาต่างๆ เลยจะบุก ธุรกิจ Online
อนาคตจะหา Partner ทำธุรกิจด้วยกัน
อย่างพิขช่า ยังส่งได้ใน 30 นาทีเลย นอกจากนั้นยังเก็บข้อมูลการซื้อขายด้วย
Q เว็บไซด์ เปลี่ยนชื่อ dev ด้วยหลัง
A กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนโดเมน เพื่อเป็น .com
Q ปันหาละเมิดลิขสิทธิ์
A กำลังเพิ่มสินค้า พร้อมจัดการสินค้าละเมิดอยู่
Q เดินตามห้าง แล้วเจอที่วางสินค้า kamart แต่ดันไม่มีสินค้าเลย
A พึ่งเริ่มทำงานกับโลตัสไม่นาน นอกจากนี้ การส่งของลงสินค้า เป็นเรื่องของ โลตัสทั้งหมด และจะพยายามไม่ให้ขายหลายอย่างเกินไป เนื่องจากกลัวกระทบ shop
Q เรื่อง 7-11
A ทุกเดือนก่อนออกหนังสือ friday ก็จะมีการเรียกสินค้าไปสต็อกก่อนหน้าแล้ว พอหมดเดือนก็จะคืนสินค้ามา ซึ่งerror น้อยมาก ประมาณ 2-3%
Q ware house ใช้ไปแล้วเท่าไหร่ (คลังสินค้า)
A เหลือ 30% ในกทม ส่วนต่างจังหวัดที่อมตะ ยังมีมากอยู่ ซึ่งมีทั้งแบบ เช่าระยะยาว และระยะสั้น ในอนาคตจะเริ่มลดที่เช่ามาใช้เองมากขึ้น
Q สาขาที่ สิงคโปร เปิดยัง
A เริ่มเปิด shop ในห้างบ้างแล้ว กำลังเริ่มต้นอยู่
ตอนนี้ในพม่าก็เริ่มรู้จัก kamart แล้วมาขอซื้อไปบ้างแล้ว เขมรก็มี เวียดนามก็มี
Q รายได้ปีก่อน 450 ล้าน ปีนี้ หวังเท่าไร
A อยากได้เยอะๆอยู่แล้ว คาดว่าน่าจะได้ 700-800 ล้าน
Q ระบบ ฝึกพนักงาน-----( ถามเบามาก)
A มี 2 เรื่อง คือเรื่อง สินค้าต่างๆ กับเรื่อง นักขายสินค้า (ฟังไม่รู้เรื่อง + ยังงงพี่ที่ถามเบามากอยู่)
ขออภัย จดไม่ทันจริงๆ
Q ระบบ Shop link มันสำคัญ ไม่ทราบว่าเป็นยังไงบ้าง
A โปรแกรมสำเร็จรูป ตอนนี้ใช้มาแล้ว 50 สาขา และในอนาคตจะง่ายขึ้น (โปรแกรมจะถูกพัฒนาเรื่อยๆ)
ตอนนี้บริษัทกำลังทำคือ ให้ผู้เชียญชาณ ด้านการขาย มาสอนตัวแทนไปเรื่อยๆ รวมไปถึงตัวแทน Online
Q q1 น่าจะมีกำไร 200ล้าน โดยมาจากร้านเก่าเท่าไร ร้านใหม่ เท่าไร สมมุติเปิด shopได้ 25 shopต่อไตรมาส
สรุป พี่เขาถามว่า เวลาบรรทึกรายได้ เกิดจากบริษัทขายสินค้าก้อนใหญ่ให้กับ shop ทำให้มีรายได้ก้อนโตเข้ามา พี่เขาเลยกลัวว่า รายได้ที่เกิดขึ้น มาจากการขายให้ shop ไม่ใช่การขายให้กับ ผู้บริโภคโดยตรง
A ประมาณ 500,000 บาทต่อ shop
Q ของมันเยอะมาก คิดว่าตัวที่ขายดีจะมีน้อยกว่าตัวที่ขายไม่ดี กลัวจะหมุนเวียนไม่ทัน
A มีการจัดการสินค้าทุกวัน โดยปกติ จะเป็นกฎ 20-80 (ลองหาอ่านดู) และจะมีเจ้าหน้าที่จัดโปรโมชั้น เพื่อที่จะล้างสต็อคในส่วนของ 80% ด้วย ตัวไหนไม่ดี ก็ไม่ขายอีก
ตอนนี้กำลังเพิ่ม เครื่องประดับผู้หญิง รวมไปถึงเคสมือถือด้วย
เคสมือถือหรอ เอาจริงอ่ะ
Q ปกติ shop มีสินค้าเท่าไร
A ประมาณ 100-200 ขึ้นอยู่กับขนาด พื้นที่
ตอนนี้ shop แต่ละที่ kamart ไม่ใช่เจ้าของ แต่ล่ะที่เลยไม่เหมือนกัน โดย kamart อาจเข้าไปช่วยเหลือบางครั้ง
Q อยากให้มีการโฆษณา kamart shop บ้าง
A อยากโฆษณา สินค้ามากกว่า ส่วนkamart เป็นเพียงชื่อร้าน ไม่อยากเน้นมาก
ตอนนี้ก็มีในไทยรัฐบ้าง แล้วBts ก็จะมี shop เปิด เหมือนเป็นการโฆษณาไปในตัวด้วย
Q เรื่องสินค้า ตกลง kamart จะเป็นยังไง เน้นสินค้าแนวไหน
A สินค้าที่ขายใน kamart จะเน้น เป็นของ kamart ไม่ก็เป็นตัวแทนนำเข้า เน้นกำไรเยอะๆ เป็นหลัก เน้นว่าที่อื่นไม่มีขาย เรามีที่เดียว
ส่วนที่จะขายสินค้า เช่น กาแฟลดความอ้วน ช็อคโกแลค คอลโลเจน ก็เพื่อเรียกลูกค้าเพิ่มด้วย
พยายามเอา shop เป็นศูนย์กลาง อย่างสินค้าที่เคยขายแล้วไม่คุ้ม เช่น ทิชชู่ ก็ยกเลิกไปแล้ว
Q ปีนี้ 100 สาขา ปีหน้าล่ะ แล้วก็โฆษณาทาง TV ไม่เห้นเลย
A การทำ TV ส่วนใหญ่แล้วไม่คุ้ม เปลืองมากๆ ถ้าจะลง TV ก็คงอีกนานหน่อย รอให้เป็น mass ก่อน อย่างพวก ที่โฆษณานั้น เขาขายได้เป็นพันๆล้าน ทางkamart เองก็พยายามทำแบรนเป็นของตัวเองอยู่เหมือนกัน
Social network ก็มี www fackbook youtubeรีวีวต่างๆ นอกจากนั้นก็มีเรื่อง 2PM แล้วในอนาคต อาจมีศิลปินเกาหลีมากอีก
-------- จบการประชุมนะครับ -----------
ส่วนตัวนะครับ ค่อนข้างมอง ผบ แง่ลบนิดหน่อย เนื่องจาก ไม่ยอมให้ใครมาตัด ไม่ค่อยฟังใคร ตอบทีตรงคำถามมากนัก พูดจาค่อนข้างรุนแรงไปหน่อยนะครับ แล้วก็เรื่องความเชื่อมั่นในตัวเองที่สูงมากด้วยนะครับ ยังไงก็ดูกันต่อไปนะครับ สำหรับบริษัทนี้
ขอบคุณคับ ^^
ReplyDelete