งบการเงินคร่าว ผมว่าดี หากยกงบใน ปี 51 และ 52 ออก
ที่ผ่านมา Book ค่อนข้างขึ้นเรื่อยๆ งบปีอื่น ที่เก็บมาได้
ปี 50 49 48 47 46 45
รายได้ 4930 3679 2962 2357 1766 1768 ล้านบาท
eps 14.82 7.52 9.67 9.85 6.24 7.76 บาท
npm 6 4.1 6.51 8.35 7 8.76 %
รายได้เพิ่มขึ้นค่อนข้างดี (ช่วงปี 46-50) รายได้เพิ่มระดับ 25-35% เลยทีเดียว
ราคาตะกั่วย้อนหลัง หาได้แค่ 5 ปี
แต่ช่วงปี 51 รายได้หาย กำไรกลายเป็นขาดทุน เท่าที่ทราบ เกิดจากผู้บริหารไปซื้อตะกั่วมาตุน ก่อนที่จะเกิดวิกฤต และ ราคาตะกั่วตกลงมาอย่ารุนแรง ทำให้ขาดทุนอย่างหนัก แสดงว่าช่วงปีก่อนหน้านั้น กำไรส่วนหนึ่งย่อมมาจากการเก็งกำไรในส่วนนี้ด้วย
ปี 52 กำไรกลับมาเหมือนเดิม แต่รายได้ยังไม่กลับ ถ้าดูแล้วน่าจะเป็นกำไรที่มาจากราคาตะกั่วที่ตกต่ำมากๆในช่วงนั้น ทำให้ได้กำไรไป ที่เชื่อเกิดจากปี 53 54 อัตรากำไรสุทธิ ค่อนข้างต่ำ และราคาตะกั่วทรงๆแล้ว อาจจะมากจากเรื่องต้นทุนทางพลาสติกด้วยก็ได้ (ช่วงที่กลุ่มพลาสติกบูมมากๆ)
จะดีมาก ถ้าไม่เก็งกำไรราคาตะกั่วนะ แต่ปีที่ 53 54 ราคาตะกั่วก็ขึ้น แต่ กำไรขั้นต้นก็ยังต่ำมาก อาจมีการควบคุมต้นทุนไม่อยู่
แต่น่าสังเกตุเรื่อง กำไรขั้นต้นที่ขึ้นลงรุนแรงมาก 8.76 -3.83 ทำให้กำไรขึ้นลงได้ถึง 2 เท่าเลยทีเดียว และแนวโน้ม กำไรขั้นต้นมีการลดลงเรื่อยๆ
ปันผลต่ำ 30-40% เท่านั้น และมีการลงทุนในเครื่องจักรโรงงานตลอดด้วย (ทำให้กำไรของเจ้าของบริษัท ต่ำกว่านี้)
คิดว่าช่วงนี้อาจน่าซื้อก็ได้ เพราะแค่ กำไรขั้นต้นกลับเป็นเหมือนเดิม (ประมาณ 5-6% กำไรก็พุ่งแล้ว)
ใช้หลักการดูแบบส่วนตัว http://panwasit-stock.blogspot.com/2012/04/blog-post_15.html
เรื่องของ สินค้า บริการ
1 สินค้าที่ใช้แล้วหมดไป
ตัวนี้ สินค้าใช้แล้ว หมดไปประมาณ 3-4 ปี เท่าที่ดู ถ้ารถขายดี แบตก็จะดีตาม แต่ถ้ารถขายแย่ลง แบตจะทรงตัว เพราะรถก็ต้องเปลี่ยนแบตเรื่อย
ส่วนเรื่องตัวเก็บพลังงานตัวอื่น ผมเองก็ยังมองไม่เห็นนะครับ ในตอนนี้
แบรน ผมไม่รู้ว่าแข็งไม เพราะไม่เคยสนใจเรื่องรถ แต่เท่าที่ทราบ ในตลาดจะมีแบรนดังๆ อยู่ไม่เยอะมากนัก ซึ่งถ้าจะมองกันจริงๆ ลูกค้าส่วนใหญ่ ไม่ค่อยสนใจมากเท่าไหร่ ดังนั้น ขึ้นอยู่กับ ช่าง คนขายมากกว่า ถ้าคนขายชอบแบรนไหน เขาก็แนะนำลูกค้าตามนั้น มากกว่า
4 คู่ค้า
คู่ค้า หันมามองจริงๆ คนที่ผลิตของให้ ก็น่าจะมีแค่กล่องพลาสติก (ผมไม่แน่ใจว่า bat-3k ผลิตเองไม)
ส่วนคนที่ส่งของให้ พวกตะกั่ว ก็มีหลายเจ้าพอสมควร และไม่สามารถต่อรองราคาได้ เนื่องจากเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่คนทั่วโลกค่อนข้างจะให้ราคากลาง ถือว่าดี เพราะถ้าราคาตะกั่วขึ้น คู่แข่งก็แย่กันหมด
5 ลูกค้า
อย่างที่เคยพูดถึง ลูกค้าที่สำคัญจริงๆ คือ ช่างซ่อมรถ เพราะคนธรรมดาไม่น่าะรู้ถึงความแตกต่างในส่วนนี้ หรือคนที่รู้เรื่องในรถมากๆ แต่ก็ตลาดไม่ใหญ่พอและไม่น่าสำคัญเท่า ช่างซ่อมรถนี่ล่ะ คิดว่า ช่างซ่อมรถนี่ล่ะ จะเป็นคนที่ทำให้ BAT-3K กลายเป็นดาวรุ่งหรือดาวดับได้เลย
แต่ก็ถึงว่าดี เนื่องจากเป็นลูกค้ารายย่อยมาก และส่วนใหญ่คนคงจะรักรถพอตัวเหมือนกัน (ซื้อเป็นแสน ขอแบตดีๆมาใช้เถอะ) ขอเพียงให้ BAT-3K รักษาคุณภาพเดิม และเพิ่มคุณภาพเรื่อยๆก็พอ
* บริษัทเน้นทำแบตทดแทนเป็นหลัก
นอกจากนั้นยังมีสัดส่วนไปต่างประเทศด้วย ซึ่งประมาณเกือบครึ่งนึงเลย ถือว่าดี และไม่
มีค่อนข้างเยอะ แต่ไม่น่าจะมีคู่แข่งคนไหน กินตลาดมากๆ (เกิน 50%) เท่าที่ทราบ Bat-3k ได้ที่ 1 ของกลุ่ม แบตเตอรี่ทดแทนนะ
7 วัตถุดิบ การสินค้าโภคภัณฑ์
การผลิต ตะกั่ว กับ PP พลาสติกชนิดนึง เอาไว้ทำแบต
การขาย รถยนต์ อันนี้เกี่ยวข้องอยู่ มีสองส่วน คือ แบตประกอบรถยนต์(รถใหม่) กับ แบตทดแทน(แบตที่เอาไปใส่ในรถเก่า เมื่อรถเก่าแบตเสีย)
* บริษัทเน้นทำแบตทดแทนเป็นหลัก
8 โอกาสการเติบโตของสินค้า บริการ
อันนี้ทำเอง จากความเข้าใจนะครับ อย่าเชื่อมาก
เท่าที่ดู ต้องดูแบตทดแทนเป็นหลักมากกว่า
กราฟแรก เป็นยอดขายรถ จะขึ้นๆลงๆตามวัฎจักรมากพอสมควร
กราฟสอง เป็นยอดขายแบตเตอรี่ประกอบรถ แน่นอน รถขายได้ยังไง ก็ขายได้ตามนั้น
กราฟสาม เป็นยอดขายแบตเตอร์รี่ทดแทน ซึ่งในช่วงแรก ยังไม่ได้อะไรจนกว่าแบตรถจะเริ่มเสื่อม (ประมาณ 3 ปี เท่าที่ทราบ) เมื่อครบ 3 ปี ก็ต้องเปลี่ยนแบตใหม่ ทำให้ยอดขายจะมาเพิ่มที่หลัง แต่สังเกตุ เมื่อยอดขายรถ เพิ่มขึ้นอีกครั้ง นั้นเหมือนถึงว่า จำนวนรถในถนนเพิ่มขึ้นอีก (เป็น snow ball ) เพราะคิดว่าคนไทยคงไม่ใช้รถ 3 ปีทิ้งหรอครับ ใช้กันเป็น 10ปีล่ะ ดังนั้นเมื่อรถใหม่ระลอกใหม่ออกมา ก็จะทำให้ ยอดการขายแบตทดแทน สูงขึ้นตามไปด้วย คิดว่า ค่อนข้างดีนะครับ
เรื่องของงบการเงิน
วันที่ดูรายละเอียด 20/4/2555
1 สินทรัพย์ หนี้สิน ส่วนของผู้ถือหุ้น
หนี้สินหมุนเวียน ต่อ สินทรัพย์ หมุนเวียน เท่ากับ 1 เลย เกือบอันตรายเลย
ทรัพย์สินก็เป็น ทรัพย์สินไม่หมุนเวียนส่วนใหญ่ เกิดจากการต้องมีที่ดิน โรงงาน นั่นเอง
หนี้สิน ก็เยอะพอตัวเลย (เทียบกับส่วนผู้ถือหุ้น)
หนี้สินหมุนเวียนมาจาก เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน เยอะมาก เกินอะไรขึ้น
2 รายได้ กำไร ROA ROE อัตรากำไรสุทธิ
เมื่อเทียบแล้ว รายได้ต่อสินทรัพย์รวม ก็ธรรมดา ไม่มากนัก
ส่วนกำไรค่อนข้างแกว่งมาก จากอัตรากำไรสุทธิ เข้าใจว่าเกิดจากราคาตะกั่ว
ROA ค่อนข้างต่ำ (น้อยกว่า 10) ผมไม่ค่อยชอบเท่าไร
ROE สูงจากการมีหนี้สินสูง (มากกว่า 10) แต่ไม่ค่อยนิ่งเลย ถ้ากะๆ คงประมาณ 13 มั้ง ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ ดี
3 รายได้ และ รายจ่าย
รายได้
98% เป็นของการขายหรือให้บริการ
2% เป็นรายได้อื่น
ถือว่าดีที่ไม่มีรายได้อื่นมากเกินไป
รายจ่าย เทียบรายได้
77% เป็นต้นทุนในการขาย (ค่าทำ ค่าประกอบ วัตถุดิบ)
10% เป็นรายจ่ายในการขาย (เซลล์)
6.5% เป็นรายจ่ายในการบริหาร
ค่าใช้จ่ายในการบริหารต่ำ ถือว่าดีครับ
กำไร
5.8 % เป็นกำไรก่อนหักภาษีกับต้นทุนทางการเงิน ในกลุ่มสินค้าเกือบ โภคภัณฑ์ กำไรเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ทำใจ
ผิดพลาดตรงไหน รบกวนแจ้งใน https://www.facebook.com/panwasit.teerawatanasuk
บริษัทนี้เคยดูไว้ตอนต้นเดืือนพฤษภา ประกอบกับที่ร้านของผมขายแบต 3 เค ด้วย ผมว่าคุณภาพใช้ได้เลยดีทีเดียวเชียวจริงๆแล้ว แบตยี่ห้อนี้กล่มชาวประมงก็นิยมนะ (ที่ร้านขายให้ชาวประมงเป็นหลัก มีหลายขนาด ตั้งแต่ 50-200แอมป์) แต่ปีนี้ขาดทุนนะ เพราะอะไรก็ยังไม่ได้เข้าไปดูรายละเอียด ส่วนตัวคิดว่าพอใช้ แต่ยังไม่ชอบ เพราะขาดทุนบ้างกำไรบ้างคาดการณ์ยาก
ReplyDeleteปัญหาคือ บริษัทนี้ เก็งกำไรเรื่องสินค้า ตะกั่วนะครับ ทำให้ขาดทุนบ้างกำไรบ้าง (ส่วนใหญ่ขาดทุน) แสดงว่าคนเก็งไม่เก่ง
Deleteที่จริงแล้ว บริษัท ไม่ควรเกร็งกำไรพวกนี้เลย ควรใช้ อนุพันให้เป็นประโยชน์มากกว่านะครับ เช่น ล็อคกำไรไปเลย สักปีนึง แบบนี้ บริษัทจะได้ประโยชน์มากกว่า
ปัญหาอีกอย่างนึงคือ ตอนนี้เปลี่ยนผู้บริหาร เป็นรุ่นสอง(มั้ง) อาจต้องดูว่า รุ่นนี้จะเป็นยังไงนะครับ