Tuesday, November 27, 2012

บรรทึกช่วยจำ Kamart Beauty


เรื่อง kamart Beauty ในมุมมองของมาร์นะ

อาจมีผิดพลาดได้อยู่ เพราะยังไม่ได้เข้าไปดูรายละเอียดเชิงลึก
 อย่าเชื่อมาก ลองคิดดูด้วยเหตุผลนะครับ


ก็เรื่องของความแตกต่างของ Kamart Beauty คือ
Kamart จะเป็นผู้นำเข้าสินค้าความงามจากเกาหลีเป็นหลัก โดยบริษัทแค่เป็นตัวแทนนำเข้ามาเท่านั้น
Beauty จะเป็นผู้ผลิตสินค้าในแบรนด์ของตัวเองแล้วมาขายเองเลย คนไทย แต่เรื่องสินค้านอกมาขายด้วยหรือเปล่า ไม่แน่ใจ แต่ไม่น่าจะเอามาขายในร้านนะ

ข้อดี ข้อเสีย Kamart

ธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับความงาม เป็นตัวฉุดกำไรบ้าง ทำให้งบไม่สวยบ้าง ผมก็ไม่แน่ใจ ว่ามันต้องทำ หรือยังไง

สามารถเปลี่ยนสินค้าได้เร็ว ถ้ามีสินค้ามาใหม่ ก็สั่งซื้อมาได้เลย ไม่ต้องลงทุึนเยอะนอกจากคลังสินค้าเป็นหลัก อันไหนขายดี ก็เอามาขายต่อ อันนี้ขายไม่ดี ก็หยุดขาย ต้นทุนส่วนนี้เลยต่ำ


เนื่องจากการซื้อมาขายไป ทำให้กำไรมีสิทธิ์หายระหว่างทางเยอะ นอกจากนั้น เหมือนตอนนี้ kamart เน้นขายส่งด้วย ทำให้่อัตรากำไรจะต่ำลง
นอกจากนั้นสินค้า kamart ที่มาจากเกาหลี ก็มีรายย่อยคนอื่นไปซื้อได้ด้วยเหมือนกัน เอามาขาย ได้กำไรมากกว่าด้วยซ้ำ แถมมากดราคาแข่งกันอีก


ไม่ต้องลงทุนเปิดสาขาเอง ทำให้ประหยัดต้นทุนในส่วนนี้ได้มาก และขยายได้เร็วกว่าที่จะต้องลงทุนเปิดร้านเอง
การที่ไม่เปิดสาขาเอง พยายามทำเหมือน 7-11 โดยการขายแฟรนไซล์นั้น จะมีปัญหาในแง่ของร้านรายย่อยที่ไม่เป็นระบบ ระเบียบ อย่างเอาสินค้าวางมั่ว เอาสินค้าปลอมหรือของเจ้าอื่นมาขายในร้าน หรือการขายราคาไม่เท่ากันก็มี

kamart เน้นสินค้าเกาหลี ถ้าวันดีคืนดี สินค้าเวียดนามดังขึ้นมาแทน ก็แย่เหมือนกัน แต่ส่วนตัวเชื่อว่าไม่น่ากลัว เพราะ เป็นเพียงบริษัทนำเข้า แค่ไปนำเข้าขอเวียดนาม ก็ได้แล้ว
กรณีแฟชั่นเปลี่ยน คนทั้งไปก็จะคิดว่าร้าน kamart ต้องเกาหลี จะมาเป็นเวียดนามก็ไม่ดี นอกจากเปิดใหม่ ซึ่งรายย่อยที่เปิดร้าน เฟชน์ไซล์ ก็ไม่พอใจแน่

คนรู้จักผมหลายคน เลิกใช้ kamart แล้ว ด้วยเหตุผลเดียวกัน คือสินค้าคุณภาพแย่ลง อย่างครีมตัวขาว เมื่อทีเดียวเห็นผล เดียวนี้ หลายรอบกว่าจะเห็น แย่เลย

ข้อดี ข้อเสียของ Beauty
การสร้างสินค้าเอง แบรนด์เอง ทำให้ควบคุมคุณภาพได้ดี และัทำกำไรได้ดีกว่ามากด้วย แต่ข้อเสียคือ ต้นทุนจมสูง และการผลิตแต่ล่ะครั้งก็ต้องผลิตให้พอดีขาย (แต่ปกติพวกนี้กำไรมหาศา่ลอยู่แล้วนะ)

การเปิดสาขาเอง ทำให้การควบคุมคุณภาพ ดีกว่าแต่ก็มาพร้อมกับต้นทุนที่แพงพอสมควรเลย

เท่าที่รู้มา Beauty ทำเครื่องสำอางตั้งแต่ชั้นบนลงล่างเลย ทำให้ไม่มีลูกค้าเฉพาะทางโดยตรง (น่าจะเน้น คนชั้นบนเลย ไม่ก็ คนชั้นล่างเลย) บางครั้งทำให้ คนที่เข้ามาไม่แน่ใจในยี่ห้อด้วยซ้ำ
*เรื่องของการวางขายสินค้า ก็เหมือนพวกแฟชั่น ถ้ายี่ห้อเดียวกัน ร้านเดียวกัน วางของแพง กับของถูกรวมกัน จะทำให้ยี่ห้อเน่าเลย ดูอย่าง หลุย กุดซี่ มีแต่แพงๆ แต่คนก็ยังใช้กัน เพราะมันแพง แต่ถ้าเอาพวกนี้ไปวางร้านข้างทางที่มีกระเป๋า 150 อยู่ คนคงไม่กล้าซื้อกัน

*ส่วนเรื่อง ผบห kamart ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่รุ่นลูกน่าสนใจดี beauty ผมยังไม่มีข้อมูล

No comments:

Post a Comment