Q. ทุกอย่างขึ้นกับเฮียหรือเปล่า
A ทุกหน่วยมี ผบ อยู่แล้ว แต่สื่อชอบลงเฮีย บางทีรูปเฮียลง หนังสือพิมพ์ก็ให้คอลัมเต็มที่
PSI ต่อไป ช่อง 2 8 9 10 จะเป็นของ RS (ส่วน DigitalTV จะอยู่ที่ช่อง11 เป็นต้นไป)
ดาวเทียมมีค่าสัญญาณราว 2 ล้านบาทต่อเดือน หรือ 24 ล้านบาทต่อปี
ช่อง 8 จะฉายใน Sat TV เหมือนกันที่ช่อง 8 และ 37 (37เป็นช่องที่เรียงใน DigitalTV) และไม่มีการเพิ่มค่าโฆษณาพิเศษ คิดตามปกติและจะขึ้นตามปกติ แต่ต้องรอดู กสทช ก่อน ส่วนการเปลี่ยนแปลงเรื่องสัดส่วนเวลา จะไปตามผังเวลาที่กำหนดเอาไว้ อย่างมีข่าวเช้า เย็น เพิ่มเวลาหลัง 4 ทุ่ม ก็เวลาผู้ใหญ่
ไม่คิดจะทำสำนักข่าว และการเสนอข่าว ส่วนใหญ่ก็นำมาจากที่เดียวกัน ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนนำเสนอมากกว่า
คาดการณ์ ช่อง 8 รายได้ 850 ล้านบาท ไม่รวมค่าโฆษณาบอลโลก (รายได้ส่วนนั้นไปลงในรายได้ส่วนบอลโลกแทน)
เรื่องการขายโฆษณาระยะยาว ก็มีประมาณ 30%ของรายได้ media เป็นการซื้อเวลาไปก่อน แล้วค่อยๆลง แต่ก็ต้องกระจายลงตามสัญญา โดยมีหลายช่องที่ทำ แต่ช่อง 8 จะดูเยอะสุด
ช่อง 3 7 ต่างก็มีข้อได้เปรียบที่มี analog TV อยู่ ค่าโฆษณาช่วงแรกจะต่างกันเยอะ แล้วค่อยจะเข้าใกล้กันเมื่อปิด analog อีกที คาดว่าค่าโฆษณาจะปิด gab ตอนนั้น (4ปี)
ละครเรื่องนึง ต้นทุนราวๆ 20-30ล้านบาท ประมาณ 20-25 ตอน ตัดค่าเสื่อม ปีแรก 80 % อีก4ปีที่เหลือ ปีล่ะ 5% บางทีก็มีต่างประเทศมาขอซื้อ ลิขสิทธิ์ไปดู อย่าง จีน เวียดนาม
การทำละคร เรื่องนึง อาจจะแพงกว่ารายได้จากการโฆษณา (เอาช่วงเวลาฉายละคร คิดออกมาไม่คุ้มค่าโฆษณา) แต่มันช่วยดันเรตติ้งทำให้บริษัท มีรายได้ดี
U ปีก่อน 40-50% ปีนี้ก็พอกัน ค่าโฆณาเฉลี่ยราว 5500 ปีนี้ราว 12000 บาทต่อนาที
การคิด u คือนับ 18 ชม ของทั้งวัน และโฆษณา 10 นาทีต่อชั่วโมง นับเป็น 100%
Q4 ชอบหดเพราะเรื่องโบนัส ค่าตัดจ่ายต่างๆ แต่ปี 2013 กระจายออกไปทุกไตรมาสแล้ว จะได้ไม่ดอป *เริ่มตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ปี 2013
Q1 เป็น low season อยู่แล้ว ปีนี้มีการเมืองอีก เลยแย่ รอดู Q2 เลยดีกว่า
ช่อง 8 รายจ่ายจาก DigitalTV ในปีแรก ราวๆ 140 ล้าน และรายจ่ายจากการทำละครเพิ่มจาก 240 มา 300 ล้าน รวมต้นทุนเพิ่ม 200 บาท โดยกำไรที่คาดไว้ในปี 57 คือ 80 ล้าน (ปีแรกใส่ค่าการตลาดเยอะ หวังอนาคต) ส่วนปี 56 gm 50% จากรายได้ประมาณ 480 ล้าน
ช่อง 8 ไม่เน้น content จากเมืองนอก เพราะเคยลองดูแล้ว ไม่เวิร์ค คนไทยชอบละครไทยมากกว่า เน้นตลาด mass
shop 77 ปิด ไม่ต่อยอดธุรกิจ เรื่องเยอะ โฆษณามากไป เกินจริง กลัวมีปัญหา
บอลโลก รอบก่อน รายได้ 550 กำไร 120 ปีนี้คาดรายได้ 650 กำไรไม่ควรต่ำกว่าเดิม
ลาลีก้า ปีนี้คาด กำไรนิดหน่อย (เท่าทุนล่ะ) ปีหน้า ขาดทุนราว 50-80 ล้าน กระจายในไตรมาส 1-2
จะมีช่องใหม่มาเปิดหลัง wolrd cup (น่าจะเป็นลูกทุ่ง)
ค่า DTV จ่ายเป็นกระแสเงินสด 6 ปี ส่วน PL หัก 15 ปี แบ่งเป็น 3 ช่วง 23% ,34% ,43%
you tube เราไม่ได้อะไร แต่เคยมีบริษัทที่คล้ายๆ youtube มาติดต่อ แต่ก็หายไปเลย
เรตติ้ง เห็นว่า กสทช จะเปิดประมูล เพราะบริษัทที่ทำเรตติ้งที่คนให้การยอมรับกัน (nielsen) ทำช้า (1ปี) แต่ปัญหาคือ คนที่จะซื้อโฆษณา จะเชื่อ nielsen มากกว่า
radio คาดว่าจะกำไรหมด
หุ้นที่ซื้อมา ยังไม่มี plan แต่สามารถถือได้ถึงกลางปีหน้า (จะลดทุน หรือจะขายยังไม่คิด แต่เรื่องเงินไม่มีปัญหา)
กลัวคนที่เงินหนา แต่ไม่เข้าใจในการทำรายการ DTV ทำให้ราคาเสีย การซื้อคนในอนาคต
ปันผล ประมาณเดิม ไม่ลด pay out
ที่ประมาณการรายได้ไว้ คือการเมืองสงบในครึ่งปีหลัง
ช่อง 5 9 สู้ได้ไม ที่คิดว่าเรตติ้งไม่น่ายาก แต่ตอนนี้ เขายังมี analog อยู่ เราเลยบอกอะไรไม่ได้ แต่ถ้าอยู่บนเวทีเดียวกัน เชื่อว่าจะชนะ ตอนแรกจะเพิ่มละครในต้นปี แต่เห็นว่ามีการเมือง เลยเลื่อนไปเป็นกลางปีแทน
ช่อง 3 7 เขาใหญ่มาก ต้นุทนก็พอๆกัน แต่เงินเขาเยอะกว่า อย่างสร้างละคร เขาก็ให้เงินเยอะกว่า
ช่องแรกก็ต้องดึงตัวดารากัน แต่อนาคตก็จะสร้างเอง ความสามารถในแข่ง เราก็เป็นรองแค่ช่อง 3 7 เอง
ตอนนี้ต่างค่ายต่างก็บังคับในเซ้นสัญญาห้ามทำข้ามค่าย
ค่าโฆษณา 5 9 เชื่อว่า partime เขาแพงกว่า 50-60% แต่เฉลี่ย ราวๆ เท่าตัว
Tuesday, February 4, 2014
Wednesday, January 15, 2014
ทิศทางธุรกิจ Digital TV ของเครือเนชั่น ปี 2557
ทิศทางธุรกิจ
Digital TV ของเครือเนชั่น
ปี 2557
* Digital TV ขอใช้เป็น DTV แทน
* Digital TV ขอใช้เป็น DTV แทน
ต้องเริ่มก่อนเลยว่าข้อมูลของDTV
ต่างๆที่ทั้งบริษัทโบรคเกอร์
นักวิเคราะห์ นักลงทุนรายย่อย
ได้ข้อมูลมานั้นเป็นข้อมูลหยาบๆ
และมองเป็นภาพรวมมากกว่า
เหมือนมองไปในป่าโทรมๆ
แต่ไม่ได้มองต้นไม้แต่ล่ะต้นว่าเป็นยังไง
สำหรับเนชั่นแล้ว
ปี2014
เป็นปีที่เปลี่ยนแปลงสื่อมากๆ
ตารางเทียบสื่อต่างๆ * nation มีหมด
เนชัี่นเป็นสื่อที่ครบวงจรมากที่สุด มีตั้งแต่ หนังสือพิมพ์ DTV วิทยุ เวปไซด์ social App ต่างๆ
โดยกลยุทธ์ของเนชั่นคือ จะทำทั้ง 5 จอ (5 screen strategy) คือ จอ TV ,จอTablet ,Computer ,Moblie Phone ,Digital Signage
*ต่อไปจะวัดเรตติ้งตั้งแต่ TV และจอที่มีทั้ง 5 จะเป็นเป้าหมายทั้งวันทั้งคืนเลย
ส่วนเรื่องของตลาด เนชั่นเชื่อว่าอยู่ใน Blue Ocean เป็นตลาดใหม่ที่คู่แข่งน้อย
*Red Ocean มี Bec RS WORK GRAMMY TRUE MONO ช่้อง 7 ไทยรัฐ เป็นรูปแบบเก่าๆ ที่มาแข่งกันเอง
*Blue Ocean ที่ว่า เป็นช่องของคนรุ่นใหม่ คนที่ติดกับ Social สามารถแชร์ได้ โต้ตอบได้ comment ได้ คนที่อยากฉลาด แนวคิดสร้างสรรค์ มีสาระ
โดยเครือเนชั่นจะทำ 2 ช่อง คือช่องข่าว Nation และช่องวาไรตี้ NOW โดยจะเน้นเป็นสื่อแรกๆ แนวใหม่ๆ ที่โชว์ในประเทศไทย
ค่าโฆษณาของ FREE TV ที่เคยอยู่ราว 2-3 แสนบาท ก็จะต้องลงมา ส่วนบริษัทเล็กๆ ทุนน้่อย พวก OTOP ที่เคยอยากโฆษณาแต่ไม่มีทุนพอ ก็จะสามารถโฆษณาผ่าน DTV ได้โดยค่าโฆษณาที่ราคาต่ำกว่าปัจจุบัน
ค่าโฆษณาทั้งหมด 64พันล้านบาท ในปี 56
เป็นค่าโฆษณาที่ข่าวราวๆ 25% หรือประมาณ 16พันล้านบาท
Nation TV คาดว่าจะขอส่วนแบ่งไปได้ราวๆ 5-6% ของข่าวทั้งหมด ราวๆ 730-950ล้านบาท
ค่าโฆษณากลุ่มวาไรตี้ ราวๆ 23.7พันล้าน
NOW คาดว่าจะขอแบ่งราวๆ 3-4% ราวๆ 710-947 ล้านบาท
คาดการณ์จาก CIMBเรื่องรายได้โฆษณา จะสูงมาก (ผมว่าไม่น่าขนาดนั้นนะ)
ส่วน NINE ที่ไม่ได้ช่องเด็ก ก็จะเป็น Content Provider แทน โดยมีเงินเพิ่มทุนอบู่ในมือเยอะมากพอแล้ว
และทางเนชั่นก็มีการเริ่มมือกับ Siamsport Rose JSL Kantana และมีผู้ที่อยากผลิตรายการอิสระอีกราว 70 กว่าท่าน ที่มาร่วมด้วย
เรื่องของคำตัดสินผู้ชนะใน DTV คือคนที่สร้างคอนเทนต์เป็นหลัก Nation มีทีมข่าวทั้งหมด มีทีมงานที่ทำงานด้าน satTV internet phone มีการลงุทนมา 10 ปี แล้ว ไม่ต้องสร้างอะไรใหม่ๆเพิ่มแล้ว มีฐานทุกอย่างพร้อมแล้ว ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม แค่ย้ายจาก SatTV มา FreeTVได้เลย
ช่องใหม่ๆหลายๆช่องก็น่าจะแย่ หาคนไม่ได้
คนก็จะถูกแย่งกัน และซื้อตัวในราคาที่สูง ซึ่งไม่รู้ว่าจะดีหรือเปล่าด้วย
เรื่องของคำตัดสินผู้ชนะใน DTV คือคนที่สร้างคอนเทนต์เป็นหลัก Nation มีทีมข่าวทั้งหมด มีทีมงานที่ทำงานด้าน satTV internet phone มีการลงุทนมา 10 ปี แล้ว ไม่ต้องสร้างอะไรใหม่ๆเพิ่มแล้ว มีฐานทุกอย่างพร้อมแล้ว ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม แค่ย้ายจาก SatTV มา FreeTVได้เลย
ช่องใหม่ๆหลายๆช่องก็น่าจะแย่ หาคนไม่ได้
คนก็จะถูกแย่งกัน และซื้อตัวในราคาที่สูง ซึ่งไม่รู้ว่าจะดีหรือเปล่าด้วย
ทีมงานเนชั่นทำงานมานานแล้วหลายปี ก็อยู่ด้วยกันมาตลอด ไม่น่ามีปัญหา
ส่วนเรื่อง Cost ที่ว่ากันว่าจะเหนื่อยในช่วง 5 ปีแรก ที่เชื่อว่า เนชั่นไม่จำเป็นต้องใช้เวลาถึงขนาดนั้น
==============================================================
เรื่องประมูล
ความคิดเกี่ยวกับราคาประมูล เชื่อว่าค่อนข้างถูก ของบางอย่างแพง แต่ถ้าทำเงินได้ มันก็ถูก คากการณ์รายได้ 6หมื่นล้าน โตปานกลาง 15ปีก็จะรวมเม็ดเงินได้ราวๆ 2ล้านล้านบาท ซึ่งค่าประมูลรวม 5หมื่นล้านบาท ก็น้อยกว่ารายได้ที่จะได้มา 40เท่าเลย อีกมุมมองนึงคือ ปีก่อนรายได้จากโฆษณาก็ราวๆ 6หมื่นล้านแล้ว
ความคิดเกี่ยวกับราคาประมูล เชื่อว่าค่อนข้างถูก ของบางอย่างแพง แต่ถ้าทำเงินได้ มันก็ถูก คากการณ์รายได้ 6หมื่นล้าน โตปานกลาง 15ปีก็จะรวมเม็ดเงินได้ราวๆ 2ล้านล้านบาท ซึ่งค่าประมูลรวม 5หมื่นล้านบาท ก็น้อยกว่ารายได้ที่จะได้มา 40เท่าเลย อีกมุมมองนึงคือ ปีก่อนรายได้จากโฆษณาก็ราวๆ 6หมื่นล้านแล้ว
ค่าประมูล และการจ่ายเงินต่อปี (จ่ายเป็นกระแสเงินสด)
โอกาสชนะของ Nation คิดว่าน่าจะชนะอย่างงดงาม เพราะเราเป็นผู้นำอยู่แล้ว
โอกาสชนะ ของNOW เราเป็นผู้นำข่าวด้านธุรกิจ กลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มคนทำงาน ก็มีหาพันธมิตรเพิ่ม ได้เรตติ้งจากกลุ่มลูกค้าด้วย เน้นกลุ่มคนมีเงิน ค่าโฆษณาก็จะดีกว่าเพราะมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน และเป็นเจ้าเดียวที่ทำหนังสือพิมพ์ธุรกิจและมี TVdigital
วอแรนบัตเฟต์ ก็พึ่งซื้อหุ้นหนังสือพิมไป โดยเน้นซื้อที่คนซื้อเยอะที่สุดกับ คอลั่นพิเศษที่ไม่มีที่อื่น
==============================================================
ว่าด้วยเรื่องผลการประมูล ช่อง HD ก็ตามคาด แต่มีไทยรัฐ ที่ไม่เคยมีช่องมาก่อน ซึ่งก็มาแข่งด้วย ส่วน WORK ก็พลาดไปอย่างน่าเสียดาย
ส่วน SD work ถอยไม่ได้แล้ว เลยเคาะราคาต้นๆมาตลอด และทุกช่องก็มีคอนเท้นกันหมดแล้ว มีที่ผิดคาดคือ ช่อง 7 ช่อง intuch ไม่ได้
ช่องข่าว เนชั่นได้ช่องข่าวคนแรก เพราะต้องการช่อง 22 (ช่องข่าวตั้งแต่ 16-22) เพราะกดง่ายดี มี Post ที่ไม่ได้ ก็ผิดคาด ส่วน TV Pool มาไงก็ไม่รู้
ช่้องเด็ก มีTVPoolด้วย แต่ทั้ง 3 ช่องก็ไม่มีลิขสิทธิ์เลย
*ช่อง 3 อาจจะเจรจากับช่อง 9 เพื่อลดสัมปทานลง (3ต้นทุนลด แต่9รายได้ลด)
*ช่อง7มีดาวเทียม 3-4 ช่อง
ส่วน Cable SatTV แนวโน้มการขยายตัวคงจะเริ่มตันๆ
เรื่อง DTV ที่มาแทน analog ตัวเดิมก็จะราวๆ 4ปีที่จะเข้าถึง 95% จากกสทช (แต่ที่คุยกับเจ้าอื่นๆ ก็คาดกัน 2 ปีได้ 95%)
*เรื่อง must carry ก็จะทำให้ ช่อง Nation จะได้อยู่บนทุกช่องทางด้วย (satTVบางจานไม่มี NationTV)
ส่วนเรื่องคู่แข่ง โดยตรง ก็จะมี Spring TNN เดลินิวส์ Voice ส่วน TVpool น่าจะเป็นข่าวบัญเทิง และ 3A ยังไม่มีช่องข่าวมาก่อน
มีช่องข่าวที่อยู่กับช่อง 9 รายได้เกือบ 200ล้าน โดนช่อง 9 กิน 60%
เชื่อว่าจะแข่งกับข่าวช่อง 3 โดยตรง
ถ้าเปรียบเทียบ ในตัวเมือง หัวเมือง ช่องข่าวอย่างเดียวเราชนะหมด (Nation Spring TNN เดลินิวส์ Voice) ส่วน นอกเขตเทศบาล TNN สูงกว่า เชื่อว่ามาจากที่ Nation ไม่ได้ลงในจานแดง แต่มีกฎ Must carry ก็จะทำให้เราชนะด้วย และโดยรวม เราชนะแน่นอน
โดยรวม เรามีคนดูเยอะสุด
คาดการณ์รายได้ กำไร
*เดิมคาดค่าประมูล 800 ลบ
*คิดค่าโฆษณาที่ 18000บาทต่อนาที ไม่เพิ่ม
*เดิม Average Occupancy rate เพียง 35%(มั้ง) เปลี่ยนมาเป็น 60%
*ปัจจุบัน Average Occupancy rate ใน satTV คือ 70%
*ปีแรกควรมีกำไรเพราะเป็นช่องข่าวอันดับ 1
*อนาคตเชื่อว่า ค่าโฆษณาจะเป็นแสน แต่ช่อง 3 ช่อง 7 ไม่น่าจะขึ้นไปได้อีก
*โดยรวมจะดูดีขึ้นเมื่อผ่านไปอีก 3-5ปี
==============================================================
NOW
เป้าหลายลูกค้า คนที่ต้องการความสำเร็จ คนที่แปลก คนช่างคิด คนที่ต้องการหาความสุข คนที่ต้องการ connect คนที่ต้องการทางของตัวเอง คนที่หาโอกาส
คือ ไลฟสไตส์คนเมือง นักธุรกิจ นักลงทุน ผู้ประกอบการ คนรุ่นใหม่ (New Gen)
มี target group ที่ชัดเจน น่าจะทำให้โฆษณาสามารถลงเฉพาะเจาะจงได้
มีตำแหน่งการตลาดที่แตกต่างบนแบรนด์ กรุงเทพธุรกิจที่แข็งแกร่ง
มีหนังสือพิมพ์ถึง 3 ฉบับในเครือในการทำตลาดและขยายฐานผุ้ชม
นำเสนอเนื้อหาที่ทันสมัย แตกต่าง
มีพันธมิตรที่ดี
การทำช่องจะมีตั้งแต่
ข่าว ที่เกาะติดสถานะการณ์เกี่ยวกับการลงุทน
ช่องที่ช่วยหาโอกาสในการลงทุน
ช่องที่ช่วยหาประสบการณ์ในการทำธุรกิจ
การใช้ชีวิตแบบคนรุ่นใหม่
เน้นหานักธุรกิจมาคุยแทนดารา
*คาดการณ์รายได้ 20000บาทต่อนาที ไม่เพิ่มในอนาคต
*การลงโฆษณาเพิ่มขึ้นจาก 55% มา 75% ในปีที่ 5
*กำไรในปีที่ 1 -5 คือ -83 -57 3 49 106 ล้านบาท ตามลำดับ
==============================================================
NINE
ตอนนี้มีช่องที่เป็นเพื่อน 2 ช่อง (ช่อง Nation และ Now )
nine ถามตัวเองเสมอว่าจะเข้าแทรกเอาเนื้อหาสาระดีๆ เข้าไปให้เด็ก ได้ยัง เพราะปัจจุบัน ช่องเด็กธรรมดา มีแต่การ์ตูน ฮีโร่ ที่ไม่มีวันเป็นจริง เด็กความจำสั่นลง
*ผมเคยถามลูกว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร ลูกตอบว่า อยากเป็น benten
Nine จะทำททั้งสาระ และมีความสนุกเข้ามาแทรกให้เด็กดูด้วย โดย Kidzone ใน SatTV ก็เป็นเบอร์ 1 ด้วย
เราจะเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในกลุ่มเด้ก
เราไม่อยากเห้น เด็ก ตื่นมา เล่นเกมส์ ดูการ์ตูน เดินห้าง ซึ่งมันไม่ดีเลย เราจะทำรายการที่ดีๆเพื่อให้มีสาระต่างๆ
ปัจจุบันรายการต่างๆ มีทั้งรายการที่พาไปเที่ยวมีความรู้ รายการที่ทำให้เด็กรู้จักคิด ไม่ใช่อยากเป็นฮีโร่ รายการที่ทำให้เด็กเรียนรู้ว่าอะไรน่าสนใจ รายการที่เอาเด็กมาแข่งกันตอบ รายการข่าวเด็ก และรายการฝึกให้เด็กเขียนโดยพิธิกรส่วนใหญ่เป็นเด็กมากกว่า
นอกจากนั้นมีรายการที่เอาพี่ๆมาช่วยตอบคำถามแทนเด็กที่ได้รับความนิยมดีมาก
ส่วนการ์ตูนก็จะมีทั้ง Yoohoo Friend ที่มีข้อคิดสาระ AstroBoy การตูนเก่ามาเอาใหม่ ให้พ่อแม่เด็กดูด้วยกัน (พ่อแม่เคยดูมาก่อน จะได้เข้าใจ) แล้วก็ Pleasant Goat & Big Big ที่เป็นการ์ตูนจีนที่ดีที่สุดมาลง
เงินเพิ่มทุนก็จะมาเน้นเป็นคอนเท้นแทน และเข้าไปแทรกใน Nation NOW และช่องเด็กที่มี ช่อง 3 9 และ TVpool ด้วยและท้ายที่สุดก็จะลุยไปในสื่ออื่นๆ App ต่างๆ อย่างที่เคยตั้งใจไว้
==============================================================
เรื่องต่างประเทศ
ก็จะมีไปในระดับภูมิภาค เพื่อให้ทัน AEC ปี 58 โดยNation ได้รุกไปในต่างประเทศเป็นเจ้าแรกๆ ในจีน เกาหลี
ในอดีตเป็นเรื่องสิ่งพิมพ์มากกว่า เป็นเครือข่ายที่มาจากหนังสือพิมพ์ 21 ฉบับจาก 19 ประเทศ และหลายๆฉบับก็มี TV เป็นของตัวเอง มีOnline TV
ปีหน้า ในพม่าจะไปเปิด หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษด้วย
==============================================================
Q/A
Q : หลังจากประมูลแล้ว จะเพิ่มทุนไม
A : ไม่เพิ่มทุนแล้ว เพราะเราเองก็ถือหุ้นเยอะ ไม่ไหว ในช่วง 5ปีข้างหน้ายังไงก็ไม่เพิ่มทุน
Q : มีการหาลูกค้าลงโฆษณายัง มีสำรองลูกค้าไว้บางไม
A : Nation ไปเดินสายมา 6 เดือนก่อนประมูลแล้ว ไปโน้มน้าว แนะนำทางเลือก ทุกวันนี้ใน SatTV nation มีคนลงโฆษณา 75% ช่วงที่คนดูเยอะก็เกิน 100% เลย
ต้องนำเสนอ Packket เอา และอนาคต ผู้ขายโฆษณาก็จะมีอำนาจน้อยลง จากเมื่อก่อนที่มีอยู่ 5ช่อง ต้องดูราคา feedback ในข่าวมีฐานอยู่แล้ว เอนเอนซี่ 20รายใหญ่ในต่างประเทศ 2รายใหญ่ในไทย ก็มาลงใน Nation เหมือนกัน พอเป็น digital ก็จะสามารถเพิ่มค่าโฆษณาได้อีก ช่องอื่นประมูลเสร็จก็พึ่งเริ่มทำช่อง เริ่มขายโฆษณา แต่ Nation แทบจะเปิดการขายแล้ว Now เองก็กำลังพัฒนารายการอยู่เป็นคอนเท้นด้วยเจาะกลุ่มลูกค้า สื่อสาร ทำงานไปพร้อมกับลูกค้า (สมุมติลูกค้าอยากขายประกัน ก็ทำรายการที่แนะนำขายประกัน น่าจะประมาณนั้น) อาจมีรายการคล้ายๆ the voice แต่มีความรู้ มีทั้งมาทำเอง มีแนวคิดมาปรับให้เป็นของคนไทย ต้องใช้เวลาบ้าง
Q : ทิศทาง Nation ใน SAT TV
A : ที่ผ่านมา ก็ขาดภาคพื้นดิน ก็คือจะมาเพิ่มใน DTV ได้เลย แต่ค่าโฆษณาก็คิดเหมือนกัน แต่ก็จะได้รับค่าโฆษณาเพิ่มจากการเพิ่มใน KBrand และ Cu ด้วย (ไม่แยกคิดค่าโฆษณา) และเรื่องใบอนุญาติก็อาจจะลดเหลือใบเดียวด้วย
Q : ค่าโฆษณา ที่เอามาคิดในการคาดการณ์ ว่า 60% เอามาจากไหน
A : 60% คิดที่ conser แล้ว ปัจจุบันมี 75% ซึ่งถ้าขึ้นค่าโฆษณาก็น่าจะมีบางเจ้ายกเลิกบ้าง ปกติ freeTvจะขึ้นอยู่กับรายการ แต่ SatTV จะขายแบบถั่วเฉลี่ย อย่างช่อง9 ใน 3ทุ่มได้ค่าโฆษณาสูงกว่า 1 ทุ่มด้วยซ้ำ
Q : รายจ่ายที่คาด รวมค่าเผื่อยัง
A : รวมแล้ว ตั้งเผื่อแล้วด้วย เพราะอยากให้มันดี เลยต้องตั้งสูงๆ Now จ้องลงทุนเยอะ สรุปว่ามากกว่าที่ประเมินไว้
Q : พันธมิตร มีช่องขายตัวเอง จะเอามาร่วมยังไง
A : แต่ล่ะรายก็ผลิตรายการให้ FreeTV อยู่แล้ว โดยรายการใหม่ ไม่มีออกรายการไหน ที่จะออกพร้อมกับ Sat TV (ไม่มี rerun และออกซ้ำกันเวลาเดียวกัน)
Q : ทำ content หลายๆที เป็นไงบ้าง
A : อยู่ที่เคยบอกไป 5 กลุ่ม จอ TV ,จอTablet ,Computer ,Moblie Phone ,Digital Signage ซึ่งคนดูจะได้สามารถตอบโต้ได้ ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ นั่งดูเฉยๆ และจะเพิ่มช่องทางอีกด้วย จากเดิมที่ของทางหน้าจอ 5 หน้าที่ว่าไป จะทำพวก E-book ด้วย โดย nine จะเป็นคนทำ และเป็นการเอาของเก่าๆมาขายด้วย
Q : NPV 7 % เอา Discount มาจากไหน
A : คิดว่า Nation ไม่กู้เงิน จะเสียยังไง (กู้เงินดอกเบ๊๊ย 7%)
Q : Nation-u เป็นไงบ้าง
A : nation เป็นไม่กี่ที่ ที่สอนให้นักศึกษาออกข่าวได้เลย มีทั้ง 2 ช่องคือ Nation Now และมีโอกาสอีกมากที่คนที่มาเรียนมากขึ้นเพราะช่องเยอะขึ้น ความต้องการคนสูงขึ้นด้วย
Q : Now ยังไง
A : จะทำให้เป็นวาไรตี้ที่น่าสนใจ Live และ Business จะเปิด nation cafe และ Now hang outทั่วประเทศ เป็นคล้ายๆ ห้องส่งเล็กๆ เพื่อตั้งวงคุย ออก TV ได้เลย
ถ้าจะพูดกึง TV analog มันง่าย แค่ทำอะไรก็ออกได้เลย คนดูมีให้เลือกน้อย และคำว่า "ไม่มีอะไรดูเลย TV " ก็เป็นคำที่มีบ่อยๆ แต่ DTV จะทำรายการดีๆได้เยอะมาก
Q : Now Nation จะร่วมกันออกไม
A : แยก now nation กันหมดเลย จะแยกไม่ให้คนทำงานด้วยกันเลยด้วยซ้ำ โดย
Nation เน้นข่าว Hard core เลย เจาะจง ปลุกปั่น ยั่วยุ การเมือง สารพัด โดยแบกเป้ติดกล้องไปทำข่าวได้ทุกทีเลย
Now เน้นข่าวธุรกิจเป็นหัลก สั้น กระชับ ทันสมัย คนสนใจอะไรบ้างในปัจจุบัน โดยเปลี่ยนชื่อมาจากช่อง กรุงเทพธุรกิจ
Q : เรื่องsocail เป็นไงบ้าง
A : เริ้มบุกเบิกเป็นเจ้าแรกๆ ที่ออก TV ก็ออกไป มีคนทำ ที่ออกในเวป ใน phone ก้ได้เหมือนกัน ที่ทำเพิ่มก็อย่างหนังสือพิมพ์ ที่มี QR โค้ด เอากล้องมือถือ ถ่ายแล้วเด้งเป็นคลิปเลย ก็จะทำด้วย
*การลงุทนมีความเสี่ยง โปรดระวังติดดอยถาวร
Sunday, January 12, 2014
สรุปหนังสือ วิธีปั่นหัวคนด้วยสถิติ
สรุป วิธีปั่นหัวคนด้วยสถิติ
การปั่นหัวคนมี 3 วิธี 1โกหก 2ตอแหล 3ใช้สถิติ
การใช้สถิติโกหก มีหลายแบบ
อย่างการหาตัวอย่างที่แย่ คนที่ดูไม่ดีก็คงไม่มีใครอยากคุย คนส่วนใหญ่ก็มักพูดให้ตัวเองดีไว้ก่อน แต่คนที่รวยมากๆ ก็อาจไม่กล้าบอกความจริงเพราะกลัวโดนหลอกถาม ทำให้ข้อมูลไม่ตรงเพี้ยน
ค่าเฉลี่ยมี 3 แบบ ฐานนิยม มัธยฐาน เลขคณิต ถ้าข้อมูลเป็นกราฟธรรมดา มันก็ ok เพราะค่าพวกนี้ มันจะใกล้เคียงกัน แต่ถ้ากราฟเบ๊ อย่างเช่นรายได้ของคนทั้งประเทศ คนที่รวยที่สุดในประเทศคนเดียว ก็มีเงินมากกว่าคนจนเป็นแสนเป็นล้านคนเลย แบบนี้ อย่างนี้ สมมุติ รายได้เฉลี่ยของเลขคณิตก็จะได้ 5หมื่น (เอารายได้มาเฉลี่ย) มัยธฐาน 1หมื่น (เอาคนที่อยู่ตรงกลางมาคิดว่ารายได้เท่าไหร่) ฐานนิยม 9พันบาท (คนส่วนใหญ่ได้ 9พันบาท) ค่าเฉลี่ยก็เปลี่ยนแล้ว
การใช้กลุ่มตัวอย่างเล็กๆ บางทีก็เกิด error ได้ เช่น ใครๆก็รู้ว่า โยนหัวก้อย มัน 50:50 แต่ถ้าให้โยนสัก 10 ครั้ง โอกาสจะออกหัว 10ครั้งมันก็มีอยู่แล้ว อย่างยาสีฟันที่หมอแนะนำ 90% มันก็มาจาก 10คน ที่บังเอิญ 9 คนเห็นด้วยก็ได้
บางทีใช้ค่าเฉลี่ยมากเกินไป ก็มีปัญหาเหมือนกัน อย่างเช่น โดยเฉลี่ยแล้ว ครอบครัวมี 3.5 คนต่อครอบครัว มันไม่ได้หมายถึง ส่วนใหญ่มี 3-4 คน แต่อาจจะมี 1-2 คนเยอะมาก แล้วก็มีครอบครัวใหญ่ 5-10 คนอยู่บางส่วน(แต่มันดึงค่าเฉลี่ยขึ้นมา) ซึ่งอาจทำใหักราฟเป็นรูปยกทรงได้ (ตรงค่าเฉลี่ยดันเป็นจุดต่ำสุดก็ได้) หรืออย่างเรื่องอุณหภูมิ บอกค่าเฉลี่ยอากาศว่า 25 องศา มันอาจจะ 15-35 องศา หรือ -10-60 องศาก็ได้
การใช้ค่าเฉลี่ยกับ ค่าต่ำสุด เช่น ตอนแรกคนประเทศนี้ มีเงินต่ำสุด 100 บาทต่อวัน แต่พวกพัฒนาแล้ว คนจะมีเงินเฉลี่ย 300 บาทต่อวัน ซึ่งแบบนี้ ตอนแรกใช้ค่าต่ำสุด ต่อมาก็ใช้ค่าเฉลี่ยแทน ซึ่งสุดท้ายแล้ว ไม่ทำอะไรมันก็เพิ่มขึ้นอยู่ดี
ค่าที่แม่นเกินไป อย่าง IQ 100 เป็นค่ากลาง คนที่ได้ 99 โง่เลย คนที่ได้ 101 อัจฉะเลยก็มี งี่เง่า
เรื่องการนำเสนอ อย่างแผนภูมิ ทำให้ดูดีไม่ยาก เช่น สมมุติ ผมได้รายได้ เพิ่มจาก 100 เป็น 110 บาท (10%) แต่ถ้าผมอยากให้มันน่าสนใจ เปลี่ยนจากกราฟที่เริ่มจาก 0 มา 110 เป็น 100 มา 110 แล้วก็เพิ่มความสูงเข้าไป กราฟจะชันมาก ทำให้กราฟดูน่าตื่นเต้นดี แต่ถ้าไม่อยากให้คนอื่นสนใจ ก็ใช้กราฟ 0 มา 200 แล้วทำให้แบนๆ เส้นกราฟก็จะแบนๆ เหมือนไม่ขึ้นเลย ก็ทำได้เหมือนกัน หรืออย่างรูปภาพ อย่างคนจนแทนด้วยเงิน 1 ถุง คนรวยแทนด้วยเงิน 2 ถุง ก็ธรรมดา แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นถุงที่ใหญ่กว่า 2 เท่า มันจะดูใหญ่กว่ามาก (กว้างเพิ่ม 2 เท่า สูงเพิ่ม 2เท่า ทำให้ดูเหมือนเพิ่ม 4 เท่ามากกว่า)
บางอย่างที่ไม่เกี่ยวกัน อย่าง กินน้ำไก่จะฉลาดขึ้น เอาคนที่กินน้ำไก่กับคนที่ไม่กินน้ำมาสอบแล้วบอกว่า คนกินนำไก่ เก่งกว่า ก็บอกยาก เพราะ คนที่พยายามจะฉลาด อ่านหนังสือมากมาย กะแค่กินน้ำไก่เพิ่ม มันก็ไม่ยากเลย แล้วอีกคนที่มาแข่งด้วย ใครก็ไม่รู้ แบบนี้ก็แพ้ตั้งแต่เริ่มแล้วก็เป็นได้ (แต่น้ำไก่มันอาจมีผลจริงๆก็ได้นะ ก็ไม่รู้สินะ)
บางอย่างที่ไม่ควรเอามาอ้าง อย่างเช่นเรื่องอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เพิ่มอย่างต่อเนื่องในช่วงวันหยุดยาว ไม่ได้หมายถึงคนขับรถแย่ลง แต่รถมันเยอะขึ้นทุกปี แถมมีรถคนแรกอีก อุบัติหตุเลยเพิ่มตามมากกว่า หรืออย่างคนเรียนสูงจะรวย ซึ่งมันไม่เกี่ยว คนที่เรียนไม่จบรวยกว่าเยอะแยะ คนเรียนมาก จมอยู่กับที่ เตะฝุ่นก็มีเยอะแยะ ก็ด้วย
อย่างเรื่องไม่เห็นด้วย เวลาพนักงานในบริษัท ไม่เห็นด้วยกับบริษัท อาจจะคนล่ะเรื่อง เช่น เรื่องเงิน เรื่องเวลา เรื่องงาน เรื่องจิปาถะต่างๆ แต่ก็ชอบเอามารวมกันเพื่อบอกว่า ไม่พอใจบริษัทก็ได้
ตัวเลขที่แอบซ่อน อย่างงบการเงิน กำไรที่ออกมาทุกปี บางทีก็หายไปกับค่าเสื่อม ค่าตอบแทนผู้บริหาร สำรองต่างๆ ซึ่งพวกนี้คือตัวเลขที่ซ่อนอยู่
เรื่องของ % อย่างเช่น ถ้าปีนี้ผมได้กำไร 10% แต่ตลาด ขึ้นมา 5% ผมสามารถบอกได้ว่า ผมกำไรมากกว่าตลาด 2 เท่าเลย (10% มากกว่า 5% 2เท่า) ก็ได้ แต่ถ้าคนอื่นได้กำไร 12% ผมก็อาจบอกว่า เขากำไรมากกว่าตลาด7% เอง ก็ได้เหมือนกัน การให้ส่วนลดอย่างต่อเนื่อง เช่น ถ้าซื้อเลย ลด 50% แล้วถ้าจ่ายเงินสดลดอีก 40% ฟังไปเหมือนลด 90% แต่ที่จริงเรายังต้องจ่ายอีก 30%นะ (100บาท ลด 50% เหลือ 50บาท แล้วลดอีก 40% ของ50% ก็จะเหลือ 30 บาท ไม่ใช่ 10บาทนะ)
การใช้ตัววัดที่ไม่เหมือนกัน อย่างเช่น ทำหอยจ้อ ใช้เนื้อปู ต่อเนื้อหมู 1:1 ก็อาจจะหมายถึงใช้ปู 1กิโล กับหมู 1 กิโล หรืออาจจะ ปู 1 ตัว และ หมู 1 ตัว ก็ได้
วิธีป้องกันตัว
ใครเป็นคนบอก เขารู้ได้ไง มันขาดอะไรไป ผิดเรื่องไหม สมเหตุสมผล
ไปซื้อมาอ่านกันนะครับ จะได้ไม่โดนหลอก แล้วไปหลอกคนอื่นต่อ
การปั่นหัวคนมี 3 วิธี 1โกหก 2ตอแหล 3ใช้สถิติ
การใช้สถิติโกหก มีหลายแบบ
อย่างการหาตัวอย่างที่แย่ คนที่ดูไม่ดีก็คงไม่มีใครอยากคุย คนส่วนใหญ่ก็มักพูดให้ตัวเองดีไว้ก่อน แต่คนที่รวยมากๆ ก็อาจไม่กล้าบอกความจริงเพราะกลัวโดนหลอกถาม ทำให้ข้อมูลไม่ตรงเพี้ยน
ค่าเฉลี่ยมี 3 แบบ ฐานนิยม มัธยฐาน เลขคณิต ถ้าข้อมูลเป็นกราฟธรรมดา มันก็ ok เพราะค่าพวกนี้ มันจะใกล้เคียงกัน แต่ถ้ากราฟเบ๊ อย่างเช่นรายได้ของคนทั้งประเทศ คนที่รวยที่สุดในประเทศคนเดียว ก็มีเงินมากกว่าคนจนเป็นแสนเป็นล้านคนเลย แบบนี้ อย่างนี้ สมมุติ รายได้เฉลี่ยของเลขคณิตก็จะได้ 5หมื่น (เอารายได้มาเฉลี่ย) มัยธฐาน 1หมื่น (เอาคนที่อยู่ตรงกลางมาคิดว่ารายได้เท่าไหร่) ฐานนิยม 9พันบาท (คนส่วนใหญ่ได้ 9พันบาท) ค่าเฉลี่ยก็เปลี่ยนแล้ว
การใช้กลุ่มตัวอย่างเล็กๆ บางทีก็เกิด error ได้ เช่น ใครๆก็รู้ว่า โยนหัวก้อย มัน 50:50 แต่ถ้าให้โยนสัก 10 ครั้ง โอกาสจะออกหัว 10ครั้งมันก็มีอยู่แล้ว อย่างยาสีฟันที่หมอแนะนำ 90% มันก็มาจาก 10คน ที่บังเอิญ 9 คนเห็นด้วยก็ได้
บางทีใช้ค่าเฉลี่ยมากเกินไป ก็มีปัญหาเหมือนกัน อย่างเช่น โดยเฉลี่ยแล้ว ครอบครัวมี 3.5 คนต่อครอบครัว มันไม่ได้หมายถึง ส่วนใหญ่มี 3-4 คน แต่อาจจะมี 1-2 คนเยอะมาก แล้วก็มีครอบครัวใหญ่ 5-10 คนอยู่บางส่วน(แต่มันดึงค่าเฉลี่ยขึ้นมา) ซึ่งอาจทำใหักราฟเป็นรูปยกทรงได้ (ตรงค่าเฉลี่ยดันเป็นจุดต่ำสุดก็ได้) หรืออย่างเรื่องอุณหภูมิ บอกค่าเฉลี่ยอากาศว่า 25 องศา มันอาจจะ 15-35 องศา หรือ -10-60 องศาก็ได้
การใช้ค่าเฉลี่ยกับ ค่าต่ำสุด เช่น ตอนแรกคนประเทศนี้ มีเงินต่ำสุด 100 บาทต่อวัน แต่พวกพัฒนาแล้ว คนจะมีเงินเฉลี่ย 300 บาทต่อวัน ซึ่งแบบนี้ ตอนแรกใช้ค่าต่ำสุด ต่อมาก็ใช้ค่าเฉลี่ยแทน ซึ่งสุดท้ายแล้ว ไม่ทำอะไรมันก็เพิ่มขึ้นอยู่ดี
ค่าที่แม่นเกินไป อย่าง IQ 100 เป็นค่ากลาง คนที่ได้ 99 โง่เลย คนที่ได้ 101 อัจฉะเลยก็มี งี่เง่า
เรื่องการนำเสนอ อย่างแผนภูมิ ทำให้ดูดีไม่ยาก เช่น สมมุติ ผมได้รายได้ เพิ่มจาก 100 เป็น 110 บาท (10%) แต่ถ้าผมอยากให้มันน่าสนใจ เปลี่ยนจากกราฟที่เริ่มจาก 0 มา 110 เป็น 100 มา 110 แล้วก็เพิ่มความสูงเข้าไป กราฟจะชันมาก ทำให้กราฟดูน่าตื่นเต้นดี แต่ถ้าไม่อยากให้คนอื่นสนใจ ก็ใช้กราฟ 0 มา 200 แล้วทำให้แบนๆ เส้นกราฟก็จะแบนๆ เหมือนไม่ขึ้นเลย ก็ทำได้เหมือนกัน หรืออย่างรูปภาพ อย่างคนจนแทนด้วยเงิน 1 ถุง คนรวยแทนด้วยเงิน 2 ถุง ก็ธรรมดา แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นถุงที่ใหญ่กว่า 2 เท่า มันจะดูใหญ่กว่ามาก (กว้างเพิ่ม 2 เท่า สูงเพิ่ม 2เท่า ทำให้ดูเหมือนเพิ่ม 4 เท่ามากกว่า)
บางอย่างที่ไม่เกี่ยวกัน อย่าง กินน้ำไก่จะฉลาดขึ้น เอาคนที่กินน้ำไก่กับคนที่ไม่กินน้ำมาสอบแล้วบอกว่า คนกินนำไก่ เก่งกว่า ก็บอกยาก เพราะ คนที่พยายามจะฉลาด อ่านหนังสือมากมาย กะแค่กินน้ำไก่เพิ่ม มันก็ไม่ยากเลย แล้วอีกคนที่มาแข่งด้วย ใครก็ไม่รู้ แบบนี้ก็แพ้ตั้งแต่เริ่มแล้วก็เป็นได้ (แต่น้ำไก่มันอาจมีผลจริงๆก็ได้นะ ก็ไม่รู้สินะ)
บางอย่างที่ไม่ควรเอามาอ้าง อย่างเช่นเรื่องอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เพิ่มอย่างต่อเนื่องในช่วงวันหยุดยาว ไม่ได้หมายถึงคนขับรถแย่ลง แต่รถมันเยอะขึ้นทุกปี แถมมีรถคนแรกอีก อุบัติหตุเลยเพิ่มตามมากกว่า หรืออย่างคนเรียนสูงจะรวย ซึ่งมันไม่เกี่ยว คนที่เรียนไม่จบรวยกว่าเยอะแยะ คนเรียนมาก จมอยู่กับที่ เตะฝุ่นก็มีเยอะแยะ ก็ด้วย
อย่างเรื่องไม่เห็นด้วย เวลาพนักงานในบริษัท ไม่เห็นด้วยกับบริษัท อาจจะคนล่ะเรื่อง เช่น เรื่องเงิน เรื่องเวลา เรื่องงาน เรื่องจิปาถะต่างๆ แต่ก็ชอบเอามารวมกันเพื่อบอกว่า ไม่พอใจบริษัทก็ได้
ตัวเลขที่แอบซ่อน อย่างงบการเงิน กำไรที่ออกมาทุกปี บางทีก็หายไปกับค่าเสื่อม ค่าตอบแทนผู้บริหาร สำรองต่างๆ ซึ่งพวกนี้คือตัวเลขที่ซ่อนอยู่
เรื่องของ % อย่างเช่น ถ้าปีนี้ผมได้กำไร 10% แต่ตลาด ขึ้นมา 5% ผมสามารถบอกได้ว่า ผมกำไรมากกว่าตลาด 2 เท่าเลย (10% มากกว่า 5% 2เท่า) ก็ได้ แต่ถ้าคนอื่นได้กำไร 12% ผมก็อาจบอกว่า เขากำไรมากกว่าตลาด7% เอง ก็ได้เหมือนกัน การให้ส่วนลดอย่างต่อเนื่อง เช่น ถ้าซื้อเลย ลด 50% แล้วถ้าจ่ายเงินสดลดอีก 40% ฟังไปเหมือนลด 90% แต่ที่จริงเรายังต้องจ่ายอีก 30%นะ (100บาท ลด 50% เหลือ 50บาท แล้วลดอีก 40% ของ50% ก็จะเหลือ 30 บาท ไม่ใช่ 10บาทนะ)
การใช้ตัววัดที่ไม่เหมือนกัน อย่างเช่น ทำหอยจ้อ ใช้เนื้อปู ต่อเนื้อหมู 1:1 ก็อาจจะหมายถึงใช้ปู 1กิโล กับหมู 1 กิโล หรืออาจจะ ปู 1 ตัว และ หมู 1 ตัว ก็ได้
วิธีป้องกันตัว
ใครเป็นคนบอก เขารู้ได้ไง มันขาดอะไรไป ผิดเรื่องไหม สมเหตุสมผล
ไปซื้อมาอ่านกันนะครับ จะได้ไม่โดนหลอก แล้วไปหลอกคนอื่นต่อ
Subscribe to:
Posts (Atom)