ประชุมผู้ถือหุ้น Beauty
25/4/56
หลังจากทำงานได้สักพัก ผมก็แอบโดดงานมาก่อน เดียวเหตุผลต้องไปเยี่ยมลูกค้าแถว CDC เลียบทางด่วน ผมก็ออกจากที่ทำงานด้วยความขยันอยากไปหาลูกค้าสุดๆ โบกแท็กซี่ กระโดดขึ้นไป วิ่งตรงไป CDC เลย ตั้งแต่ก่อนเที่ยง รถติดนิดหน่อย แตไม่ใช่ปัญหา ไม่นานนักก็ถึงที่หมาย
ป้ายทางเข้า CDC
ผมก็เดินหลงทางนิดหน่อย ก่อนที่จะไปให้ยามแถวนั้นช่วยพาไป ก็ขึ้นไปที่ประชุม BEAUTY ก็มีคนมาต้อนรับอย่างดี พาให้ไปเซ็นนู้นเซ็นนี้นิดหน่อย แล้วก็เอาของชำร่วยเล็กน้อย ก่อนที่จะเข้าไปกินของว่างเล็กน้อย (แต่ผมกินไม่น้อยอยู่ หิวจัด)
วุ่นวายเล็กน้อย
มีท๊อฟฟี่เค็ก พายบูเบอร์รี่ แซนวิทแฮมชีส น้ำชา กาแฟ
นำเสนอ
BB
BC
MN
ของชำร่วย + รายงานประจำปี (นึกว่าแม็กกาซีน)
ก็ก่อนเริ่มประชุม ขออธิบายก่อนนะครับ
BB = BEAUTY BUFFET
BC = BEAUTY COTTAGE
MN = MADE IN NATURE
เพื่อความสะดวกของผม อิอิ
วาระที่ 1 รับรองการประชุม 3/2555
วาระที่ 2 รับทราบผลการดำเนินงาน แผนการ
ผลการดำเนินงานปีก่อน
( กำไรต่อหุ้น 55 เทียบ 120 ล้านหุ้นโดยประมาณ ปัจจุบันมี 300 หุ้น หรือกำไร 0.58 บาทต่อหุ้น)
แผนการดำเนินงานปี 2556
กลยุทธ์ เนื่องจาก ธุรกิจเครื่องสำอางเป็นธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงไวมาก
- Multi Brand เพราะลูกค้าถูกแบ่งเป็นกลุ่มๆมากขึ้น จึงต้องมีหลายแบรนด์เอไว้รองรับหลายๆกลุ่ม ให้กว้างขวาง และมีเป้าหมายที่ชัดเจนในแต่ล่ะกลุ่ม
- Multi Product ผลิตภัณฑ์หลากหลาย ตามความต้องการในการใช้งานของลูกค้าแต่ล่ะคน จะได้ยืดหยุนในเรื่องการผลิตสินค้าที่กระแสมาเร็วทันกับอุตสหกรรมความงาม
- ผลิตภัณฑ์ จะมีหลายรูปแบบ (แผนการตลาดแนวราบ)
- และจะมีหลายระดับราคา (แผนการตลาดแนวสูงต่ำ)
- เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
- Multi Channels หลังจากที่ทำในแววงการนี้มา 10ปี ในช่วงปีที่มี BBกว่า 100 สาขา (ก่อนเข้าตลาดหุ้น) ด้วยความที่เรามี Know How มาก บริษัทมีศักยภาพมากกว่านั้น เลยเพิ่มช่องทางมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งช่องทางสินค้า Consumer ด้วย เพื่อเข้าถึงลูกค้าทุกระดับ (ปัจจุบันมี BC และ MN ซึ่งในอนาคต จะเพิ่มช่องทางอีกช่องทาง ชื่อ B?)
ปรัชญาในการทำธุรกิจ
- Creative คิดต่าง ไม่ซ้ำใคร เป็นผู้นำความแปลกใหม่ ไม่ลอกคนอื่น เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ
- Dynamic เพราะธุรกิจเครื่องสำอางซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราต้องพร้อมเสมอ
- Sustainable เราต้องการยืนยัน อยู่ได้นานๆ เราจะโตได้ สุขภาพต้องดีแข็งแรงด้วย
นโยบาย
- เน้นสร้างสินค้า High Quality Produce ที่ดี
- Premium Design การออกแบบบรรจุพันที่ดูดี เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า
- Targeting a Larger เน้นลูกค้ากลุ่มที่ใหญ่ที่สุด (MID - END)
- Affordable Price ราคาที่พอสมควร แข่งขันได้
ปัจจุบัน มี
BB เป็นบริษัทที่ทำมาต่อแรก
BC เน้นแบรนด์มากขึ้น ราคาสูงกว่า เน้นธรรมชาติผสม Design Wind Tad (วินเทล์)
MN เป็นสินค้ากลุ่ม Consumer ไม่มีร้านค้าเป็นของตัวเอง ขายผ่าน Modern Trade ปัจจุบันมีสินค้า 2 ชนิด ในอนาคตจะเพิ่มขึ้น ลูกค้ากลุ่ม Premise mass
B? รอเพิ่มแบรนด์ เป็นรูปแบบใหม่ทั้งหมด เพื่่อเพิ่มรายได้ กำไร ในกับบริษัท
ปี ยอดขาย GP NP GPM% NPM%
2010 504 338 102 67 20
+22% +29% +31%
2011 615 437 134 71 21
+26% +25% +29%
2012 718 549 174 71 22
+30% เป้าหมาย
2013 XX XX XX ประมาณ 70 20
IPO ปี 2013 มี Projection การใช้เงิน
2012 2013(เป้า) ปัจจุบัน (25/4/56)
BB 148 180 157
BC 31 50 41
งบส่วนนี้ 125ล้านบาท
สร้าง Ware House & Training Center พัฒนาเรื่องอื่นๆ 120ล้านบาท
พัฒนาแบรนด์ใหม่ๆ , E-com , ช่องทางอื่นๆ
ปัจจุบันมีพนักงานประมาณ 400 กว่าคน มีการเทรนพนักงานใหม่ๆ 2สัปดาห์โดยประมาณ ต้องดูแลดีๆ เพื่อให้เขารู้สึกดี จะได้ขายดี
New Product 2013
ปีนี้ยอดขายโต 30%
Brade สินค้าเพิ่ม ของแต่ล่ะกลุ่ม
2555 2556
BB 216 222
BC 6 89
MN 2 33
Marketing Plan
ทำตลาดทั้งด้านลงทุนด้วยเงิน และกิจกรรมต่างๆ
สื่อต่างๆ (เน้นที่แม็กกาซีนมากกว่า)
โฆษณา TV ไม่เยอะ (คิดว่าไม่มีมากกว่า ไม่คุ้ม)
สื่อดิจิตอล youtube facebook bloger
ขายร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ
กิจกรรมต่างๆ
CRM
ใช้สื่อเฉพาะทางกับลูกค้าโดยครง
*จะใช้เงิน่ต่างๆ ให้รอบคอมที่สุด
โอกาสการขยายตัว
AEC ปัจจุบันมี 1 สาขา ที่พนมเปน
อนาคต
พนมเปน จะเพิ่มเป็น 3 สาขา และเพิ่มอีก 1 สาขาในจังหวังอื่น
เวียนจัน 2 สาา
เวียดนามอีก 2 สาขา รออยู่
*จะบอกทั้งหมดในส่วนที่เริ่มมีการทำงานจริงๆแล้วเท่านั้น
Q E-com มีเป้าหมายยังไง ร่วมคนอื่น หรือทำเอง เห็นผลเมื่อไหร่
A E-com เป็น 1 ช่องทางการที่น่าสนใจมาก แล้วก็ต้องทำตามผู้บริโภคไปเรื่อยๆด้วย
แนวทางพํฒนามี 2 แบบ 1. พัฒนา เวปเอง หรือ 2 ทำร่วมกับผู้อื่น
ปัจจุบันฝ่าย IT ,Market กำลังศึกษากันอยู่ ส่วนช่องทางขายร่วมกับผู้อื่น กำลังเลือกสินค้าอยู่
เป็นช่งทางที่พึ่งเข้า ยังบอกเรื่องรายได้ไม่ได้
Q
- ใน OP มีพวกครอสนวดหน้าแล้วให้ใช้ผลิตภัณฑ์ของเขาด้วย เพราะผู้หญิงที่มีอายุ มีเงิน ชอบมากๆ ไม่ทราบว่า BEAUTY มีไม
- MN ทำจาก ธรรมชาติ เป็นไปได้ไม ถ้าจะใช้ ขมิ้น กาวเครือ มาผสมขายในสินค้า
- เรื่องโปรแกรมนวดหน้า Beauty มีโครงการที่จะทำอยู่แล้วใน BC กำลังศึกษาอยู่ว่าจะทำแบบไหน ขาย บริการ หรือให้เป็นสิทธิ์ เมื่อซื้อสินค้า (อยู่ในช่วงศึกษาอยู่)
- MN สมุนไพรน่าสนใจ ซึ่งโดยปกติจะแบ่่งเป็น สมุนไพรไทย กับ สนุมไพรต่างประเทศ MN เป็นแบรนด์ที่วางไว้ว่าจะใช้สนุมไพรจากต่างประเทศมากกว่า ส่วนเรื่องสมุนไพรไทย คิดว่าต้องทำแบรนด์ใหม่เลย จะดีกว่า เป็น Ideal ที่ดีมากเลย ส่วนกาวเครือ มีในส่วนผสทของสินค้าของ BB แล้ว
วาระที่ 3 อนุมัติงบการเงิน
Q ภาษีในปี 2554 กับ 2555 ในงบกำไรขาดทุน กับเงินกระแสเงินสด จ่ายไม่เท่ากัน เพราะอะไร
A งบกระแสเงินสดเป็นภาษีที่ค้างจ่ายในปี 2554 ซึ่งถูกเลื่อนมาจากในปี 2555 แทน
Q งบ Kamart มีรายได้ที่พอกับ Beauty (kamart 680 กับ beauty 769 ตามลำดับ) แต่ค่าใช้จ่ายในการขาย Beauty เยอะกว่ามาก ( kamart 84 กับ beauty 255)
A เข้าใจว่าเป็นลักษณะธุรกิจ Kamart เป็นเฟสไซส 100% ทำให้ไม่มีค่าเช่า ค่าหน้าร้าน ค่าพนง
เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ล่ะบริษัทด้วย โดยทาง Beauty เลือกโตแบบยั่งยืนมากก่ว่า
Q เดินผ่านร้าน BB บางที่ มีพนักงานมากเกินไปไหม
A พนักงานมากกว่าลูกค้า ต้องเข้าใจว่า แต่ละช่วงเวลาไม่เหมือนกัน บางช่วงว่าง บางช่วงคนเยอะ เราต้องการบริษัทลูกค้าให้พอ อย่างวันเสาร์ อาทิตย์ พนักงานส่วนใหญ่ไม่พอ ยิ่งบิวตี้ มีการแต่งหน้าด้วย
*สาขา CPN ปิ่นเกล้า กำไรดีมาก
Q มีปัญหาเรื่องค่าเช่าที่แพงไหม ในบางห้าง อาจทำให้ไม่กำไรในทุกเดือน
A เรามีการตัดสินใจก่อนแล้ว
จุดไหนค่าเช่า เท่าไหร่ พื้นที่แค่ไหน หน้าร้านกว่างไม เราคำนวณความเป็นไปได้ทั้งหมด ตั้งแต่แบบ แย่ ปานกลาง และ ดี ยิ่งเปิดเยอะ เรายิ่งมีร้านเยอะ เราก็มีข้อมูลเยอะ คาดการณ์ได้
*บางที่ค่าเช่าอาจจะแพงมากๆ แต่ก็ต้องยอมจ่าย เพราะเป็นเรื่องของแบรนด์ด้วย
Q ค่าใช้จ่ายขึ้นมา ค่อนข้างมากในปีที่ผ่านมา
A สาขาเพิ่ม ค่าเช่าเพิ่ม เข้าตลาดหลักทรัพย์ ก็ดึงคนเก่งๆเข้ามาช่วยบริษัทด้วย ปรับค่าแรงก็ด้วย แต่บริษัทก็รักษาการโตที่รักษาระดับ GPM NPM ไว้เสมอ
เรามองดูตัวเลขที่ดีด้วย ไม่ได้ทำธุรกิจอย่างเดียว
วาระที่ 4 ปันผล
วาระที่ 5 กรรมการ
วาระที่ 6 ผลตอบแทน โบนัส
วาระที่ 7 ผู้สอบบัญชี
วาระที่ 8 อื่นๆ
Q เสนอแนะ ในงบการเงินมีเงินสดกว่า 200ล้านบาท แต่ในนั้นมีหนี้สินอยู่ 5 ล้านบาท และมีดอกเบี๊ยจ่่ายอยู่ 4แสนกว่า น่าจะเอาเงินสดไปชำระหนี้ให้หมดก่อนได้
A น่าจะเป็นหนี้จาก สาขา MBK เพราะเป็นที่เซ็งต่อสัญญาระยะยาว ต้องระวัง เดียวคนอื่นเอาที่ไป
Q ปลายปีนี้จะมีสินค้าเข้า Modern Trade อาจจะทำให้มีปัญหาเรื่องกระแสเงินสด เพราะต้องมี Credit term ด้วย จะไหวไม
A การเข้า Modern Trade จะต่างจากปกติ แต่จะมีผลยังไง ทางบริษัทได้ศึกษาและค่อยๆเข้าไป ส่วนเรื่องผลกระทบไม่น่าจะรุนแรง เพราะว่าสัดส่วนรายได้หลัก ก็มาจาก BB BC เหมือนเดิม
คำถามจากสมาคม
Q อยากรู้จุดแข็ง จุดเด่น และการวางแผนในอนาคต
A หลังจากเข้า set beauty เองก็เป็นธุรกิจค้าปลีกเครื่องสำรองเพียวๆ ซึ่งคู่แข็งก็มี แต่เราจะโฟกัสในสิ่งที่ทำอยู่ ไม่เปลี่ยนไปทำอย่างอื่น ทำในสิ่งที่ถนัด เครื่องสำอางเองก็เป็นธุรกิจที่มี NPM สูง
ธุรกิจเครื่องสำอางเป็นธุรกิจที่จำเป็นมากสำหรับผู้หญิง ทุกวันนี้คนคำนึงถึงหน้าตามาก
"บางคนไม่กินข้าวไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่แต่งหน้า อยู่ไม่ได้เลย"
เป็นธุรกิจที่กระแสเงินสดดีมาก มีโอกาสขยายตัวกว้างขวาง ลงทุนต่ำ กระจายสาขากระจายความเสียง ถึงมือผู้บริโภคมากมาย
ในบางช่วงมีวิกฤตบาง การเมือง น้ำท่วม บางสาขาก็มีปัญหา แต่โดยรวมแล้ว ไม่มีผลกระเทือนเลย
ที่จริงมีอีกเยอะ แต่พอแค่นี้ก่อน (ผบ บอกเองนะ)
แผนงาน
หลังจากเข้าตลาด ก็มีหลายฝ่ายมาขึ้น มี QC ตรวจสอบมากขึ้น รวมถึงผู้ถือหุ้นด้วย
เราต้องรับผิดชอบในเงินลงทุนของผู้ถือหุ้น มีการตั้งเป้าหมาย มีต้นทุนต่างๆชัดเจน มีมาตรฐานมากขึ้น....
(จดไม่ทัน)
ทั้งตอนนี้ และอนาคต จะดีขึ้นเรื่อยๆ
Q
- รูปแบบ B? เป็นยังไง ได้ยินว่าจะเอาสินค้าคนอื่นมาขายด้วย
- สินค้าที่วุฒิศักร์ คลินิก ไม่ทราบว่าเราเกี่ยวข้องอะไรหรือเปล่า
- ค่าเงินบาทแข็ง เราได้อะไรไม
A
- B? เป็นโครงการใหม่ ที่จะนำสินค้าคนอื่นเข้ามาด้วย อยากบอกแต่เป็นความลับทาธุรกิจถ้าบริษัทคิดอะไรขึ้นมาก ขอให้เชื่อว่าเราทำได้ เราหาช่องว่างคู่แข็ง ปัจจุบัน 50% แล้ว มีทีมงาน บุคลากร ครบแล้ว รอเปิด ขอให้อดใจรอกันนิดนุง
- ไม่ใช่วุฒิศักร์คลินิก เป็นวุฒิศักร์ฟาร์มาซีน คนละอย่างกัน ไม่เกี่ยวกัน เป็นการขายสินค้าของ MN แล้วก็ไม่มากนัก ส่วนที่ต่างประเทศ คนที่เป็น Partner เป็นคนเดียวกัน เลยเปิดใกล้กัน
- ในบางรายการ เรานำเข้า แตไม่มีผล ส่วนใหญ่จ่ายเป็นเงินบาท
Q MN ยังไม่เห็นเลย
A ในโลตัส top ตอบรับแล้ว รอเรื่องขั้นตอนเอกสาร ไม่นานจะได้เห็น
Q อยู่ภาคเหนือ สำรวจมาหลายร้าน มีปัญหาเรื่องสินค้าขาด และขาดเป็นเวลานานด้วย เป็นเดือนๆ แถมลายสาขาด้วย พนักงานก็บอกไม่มี เป็นปัญหาด้านโลจิติกหรือเปล่า หรือปัยหาด้าน ware house ไม่พอหรือเปล่า
Aสินค้าขาดจริงๆ
ปัจจุบันน้อยลงมากแล้ว แต่ก็ยังมีบาง ในธุรกิจค้าปลีก มีปัญหาเรื่องสินค้าขาดเยอะ ไม่ว่าจะเป็นคนซื้อเยอะ ในช่วงเวลาใดเวลานึง (เช่น ทุกสัปดาห์ ขายได้ 5 ชิ้น จู่ๆสัปดาห์นี้ มีขาย 10 ชิ้นเลยหมดเลย) หรือ บางทีขายสินค้าใหม่ แต่ขายดีเกินคาด ทำให้ขาดตลาดช่วงคราว
อย่างปีก่อน สินค้าขาดเยอะเพราะว่าแพ็คเก็จจิ้น บรรจุพันไม่พอ เพราะเรื่องน้ำท่วมในปีก่อน โรงงานที่ทำบรรจุพันโดนน้ำท่วม ทำให้ผลิตไม่ได้ โดยเฉพาะสินค้าที่ใช้บรรจุพันเฉพาะโรงงาน
การขาดสินค้า อันตรายมาก เพราะอาจทำให้ลูกค้าไม่กลับมาซื้ออีก เสียโอกาสในการขายด้วย
ทางเรารู้หมดเลยว่าสินค้าขาด จนต้องแก้ปัญหาเรื่องสินค้าขาดอย่างเร่งด่วนด้วย ตอนนี้ดีขึ้นเยอะมากแล้ว เราติดตามปัญหาอย่างใกล้ชิดเลย
ในอนาคตคงดีขึ้น แต่โดยปกติแล้ว การลงสินค้า จะลงเป็นอาทิตย์ๆ ถ้าสัปดาหไหนขายดี ก็ต้องเพิ่มสินค้าที่ลงร้านให้มากขึ้นอีก
ส่วนด้านโลติดจิกไม่มีปัญหาเลย เรื่องช้าเรื่องจัดเก็บ ไม่มีปัญหา แล้วมีการเตรียมพื้นที่เก็บเพิ่มแล้ว
Q
- ที่ผ่านมา Shop ใช้เวลา 8 เดือนคืนทุน ตอนนี้ยังเหมือนเดิมไม
- พนักงานขายมีวิธียังไงบ้างในการวัดผล เพราะก็มีทั้งดี ไม่ดี
A
- ค่าเฉลี่ย Shop ใช้เวลา 8-12 เดือนในการคืนทุน อนาคตก็ขึ้นอยู่กับทำเล เรามีการวัดผลเสมอ และพยายามควบคุมเสมอ
- การบริการ เราเปิด200 สาขา บริษัทก็พยายามควบคุม operation มีการดูเสมอ มีหลายฝ่ายไปเยี่ยมสา แบบสุ่ม มีบัญชีไปรวจสินค้าด้วย
เรื่องตรวจสินค้า ถ้ามีสินค้าหายไม่เกิน จะให้โบนัสพนักงานแทน (เมื่อก่อนหักเงิน แล้วพนักงานไม่พอใจกัน)
เรื่องพนักงานที่ีปัญหาก็ไม่แก้ตัว แต่อยากรู้ด้วยซ้ำว่าอยู่สาขาไหน แต่ขอนอกรอบ
เราพยายามในการดูแลอยู่เสมอ มีการ check list ต่างๆ การจัดการร้านค้า ต้อนรับลูกค้าต่างๆ และดูกลอ้งวงจรปิดประกอบด้วย
ผมเชื่อว่า Beauty มีการอบรมที่ดี แต่ก็อาจจะมีบ้างที่หลุดไป เราพยายามมุ่งเน้นด้านนี้ด้วย
Q ต่างประเทศ มี partner อยากให้ระวัง เรื่องเคส pizza กับ น้ำดำ บางทีธุรกิจไปด้วยกันดีๆ ก็แตกคอ ทำให้เราเสียหายได้
A นโยบายมี 2 แบบ คือขยายเอง ทำเอง จะค่อนข้างลำบาก และไม่คุ้ยเคย
อีกแบบคือ partner เราเลือกข้อนี้ แต่ล่ะทางมีข้อดีข้อเสีย เราก็เลือกทำไป เรียนรู้ไป ศึกษาไป มีสัญญาต่างๆกันมีปัญหาด้วย
ในอนาคตจะมีทำเองไม บอกยาก แต่เราเลือกทางที่ดี มีการติดตาม จะดีกว่า
Q สินค้าแตก จากการรับทางพัสดุ
พนักงานที่มีปัญหา ต่อว่าลูกค้า คิดว่าจะแก้ไข ระวังยังไง
A เรื่อสินค้าเป็นปัญหา ด้านการส่งมากกว่า เราก็เพิ่มช่องทาง boxset ช่องทางใหม่เหมือนกัน ในส่วนนี้เราให้ partner ทำ
เรื่องพนักงานต่อว่า เราต้องบอกว่าในธุรกิจ ลูกค้าถูกเสมอ เราพยายามเสมอที่จะอบรมเรื่องนี้ แต่พนักงานมาก ก็มีหลุดกันบ้าง
จบการประชุม
นอกเรื่อง
Q บางที่ขายส่ง ลดราคา 70% เลย จะทำให้มีปัญหาไม
A บางทีลูกค้าเขาซื้อไปขายเอง อย่างเกาหลี จีน หรือบางจังหวัดที่สมัยก่อนไม่มีร้านไปเปิด เราเองก็ยอมเพราะเหมือนเป็นการทำตลาดไปด้วย ถ้าเขาเหมาไปแล้วขายดี เราก็กล้ามากขึ้นที่จะไปเปิด
Q เรื่องการเปิดเป็นร้านเล็กๆ ในบางที่ หรือสนามบิน
A การเปิดร้านเล็กๆ ถ้าเล็กมากไป ไม่แสดงถึงความเป็นแบนรด์ เราก็ไม่เอา ส่วนสนามบิน ค่าเช่าที่แพงเกินไป
No comments:
Post a Comment