Five Force: โรงพยาบาล
1. Rivalry Among Current Competitors: การแข่งขันกันระหว่างคู่แข่งภายในอุตสาหกรรมเดียวกัน
ทุกโรงพยาบาลมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง ในเรื่องของบริการ และการโฆษณาคุณภาพ แต่เท่าที่เห็น แข่งขันทางด้านราคาน้อยมาก ถึงว่าเป็นเรื่องดี
การแข่งขันที่ขนาดของโรงพยาบาล
โรงพยาบาลขนาดเล็ก จะแข่งกับโรงพยาบาลขนาดใหญ่ได้ยากกว่า เนื่องจาก อุปกรณ์ ทางการแพทย์หลายชิ้น ราคาสูง ถ้าคนไข้น้อย มันจะไม่คุ้มเลย เรื่องการทำมาตราฐานอีก ต้องลงุทนพอสมควรเลย
แต่ข้อดีของโรงพยาบาลเล็กๆ คือ ประหยัดต้นทุน ลงทุนต่ำกว่า และสามารถขยายได้ง่าย ในต่างจังหวัด พื้นที่คนไม่หนาแน่นมาก ไม่จำเป็นต้องอยู่ในเขตพื้นที่คนหนาแน่นมาก
สุดท้ายแล้ว ผมเชื่อว่า โรงพยาบาลใหญ่ๆ ก็จะมาเปิดโรงพยาบาลขนาดเล็กแข่งแน่นอน เพราะจะได้กระจายโรงพยาบาลไปทั่ว แถมสามารถ ส่งคนไข้หนักมาโรงพยาบาลใหญ่ได้อีก
ส่วนโรงพยาบาลเล็กๆ ก็จะหันไปทำโรงพยาบาล เฉพาะทางโดยตรงเพื่อให้อยู่รอดเรื่อยๆ
การแข่งขันระหว่าง โรงพยาบาลเอกชน กับ โรงพยาบาลรัฐ
โดยหลักๆ โรงพยาบาลรัฐ จะรับคนชั้นล่าง ส่วนเอกชน จะรับคนชั้นบน เป็นส่วนใหญ่ แต่ในอนาคต โรงพยาบาลรัฐก็จะเปิด คลินิคพิเศษนอกเวลา นอกจากนั้น โรงพยาบาลรัฐ มักจะเอานักศึกษาแพทย์มาทำงานด้วย
ส่วนนี้ผมว่าอนาคตไป คนชั้นบน กับ คนชั้นล่าง ก็คงยังจะแยกกันเข้าโรงพยาบาลอยู่ดี เป็นไปได้ยาก ถ้าจะให้ทุกคนเข้ามาโรงพยาบาลเดียวกัน
2. Bargaining Power of Suppliers: อำนาจต่อรองของ Supplier
บุคลากร
พวกหมอชื่อดัง นี่ ผมมองเป็น Supplier นะ เพราะเป็นผู้ให้บริการที่สำคัญของโรงพยาบาล ยิ่งในอนาคต หมอคนเดียว อาจดึงคนเข้าโรงพยาบาลมาได้เยอะมากๆ และถ้าหมอคนเดียวกัน ลาออก คนไข้ก็พร้อมไปหาหมอคนนั้น คนไข้มองโรงพยาบาล เป็นเพียงสถานที่อำนวยความสะดวกเท่านั้น
ดังนั้นการจะดึงหมอชื่อดังมา และทำให้อยู่นานๆ ก็เป็นส่วนสำคัญของโรงพยาบาลเลย แต่ส่วนนี้ ผมไม่ได้ในวงการ ไม่รู้จริงๆ
เครื่องมือทางการแพทย์ และยา
โรงพยาบาลที่ใหญ่มาก จะมีอำนาจสูงมากในการต่อรองราคาพวกนี้ มีความสามารถในการซื้ออุปกรณ์ที่ดีได้สูง และยังสามารถ เลือกยาที่ให้คนไข้ได้เสมอ ทำให้อำนาจต่อรองค่อนข้างสูงมาก
3. Bargaining Power of Customers: อำนาจต่อรองของลูกค้า
คนไข้
แทบจะไม่มีทางให้ต่อรองเลย สำหรับรายย่อย นอกจากหาโรงพยาบาลถูกๆ แทนไปก่อน
กลุ่มประกัน หรือบริษัท ที่มาซื้อแพ็ตเก็ตแบบเหมาให้ลูกค้าหรือพนักงาน
มีทางต่อรองบาง สำหรับ บริษัทที่ขอเหมาให้กับ พนักงาน เพราะต้องการถูกๆ แต่กลุ่มประกันยาก เพราะลูกค้า ต้องการแต่ของดีๆ อยู่แล้ว
4. Threat of Substitute Products or Services: ภัยคุกคามจากสินค้าทดแทน
อาหาร เครื่องดื่ม เพื่อสุขภาพ
ก็ตามที่เขียน เดียวนี้ เทรนมาแรง แต่เท่าที่ผมเห็น ไร้สาระมากกว่า อย่างเครื่องดื่ีม น้ำตาลเป็นก้อนๆเลย กินแล้วอ้วนมากกว่า หรืออย่าง อาหารเพื่อสุขภาพ แพงสาดๆ เลย
ผมว่ามันเป็นเรื่องความเชื่อมากกว่า เหมือนโรงพยาบาล ล่ะ เล่นกันที่ความเชื่อ แต่โรงพยาบาลดีกว่า ที่มีเทคโนโลยี และความรู้รองรับ
การแพทย์แบบแปลกๆ (ไม่รู้จะเขียนยังไง)
ก็อย่างเช่น เรื่องการเอาของแปลกๆ มารักษา อย่าง เหล็กในผึ้ง การเอาตัวเข้าห้องอบ การฝังเข็ม
อันนี้ผมบอกไม่ถูก แต่ถ้าคนไข้คนไหน ได้ลอง แล้วหายจะอาการป่วย ส่วนใหญ่ก็จะเชื่อไปเลย
ไสยศาสตร์
อันนี้ก็เรื่องความเชื่ออีก คือทำแปลกๆ อย่างคนจะตาย เอามาสวดมนต์ นั่งสมาธิ มันก้ไม่น่าจะหายได้เลยนะ
ปล. ไม่ได้ลบลู่นะ
5. Threat of New Entrance: ภัยคุกคามจากผู้แข่งขันหน้าใหม่
ข้อนี้ ตัดออกได้เลย เพราะการลงทุนโรงพยาบาลใหม่ ไม่ถูกเลย ทั้งค่าที่ดิน ค่าอาคาร ค่าอุปกรณ์การแพทย์อีก นอกจากนั้น การหาแพทย์ที่มีชื่อเสียงก็ยาก การที่คนไข้จะเข้ามาก็ยากเพราะโรงพยาบาลที่พึ่งเปิดใหม่ ยังไม่มีชื่อเสียง ทำให้คนไข้ไม่กล้าเข้ามารักษาตัวกันมากนัก
กลายเป็นการลงทุนที่สูง กับชื่อเสียงโรงพยาบาล ทำใ้ห้โรงพยาบาล หน้าใหม่เข้ามาเปิดได้ยากไปด้วย