Wednesday, April 27, 2011

คุณ ih ครับ ภาค 8 โดย hongvalue จาก เวปกระทิงเขียว

1.คุณ ih คิดว่าการที่ธนาคารจะก ตปท.มา take over ธนาคารไทยเช่น bay tmb ธนชาติ จะส่งผลดีหรือผลเสียต่อ หุ้นกล่มธนาคาร และประเทศไทยครับ

-   ผมคิดว่าน่าจะมีโอกาสส่งผลดีมากกว่าผลเสียครับ เพราะปัจจุบันส่วนต่าง หรือ spread ระหว่างดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ของเมืองไทยค่อนข้างกว้าง คือประมาณ 4-5% ซึ่งแสดงถึงความไม่ค่อยมีประสิทธิภาพของการจัดการทั้งระบบอยู่แต่ผมก็ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร ส่วนผลเสียต่อประเทศนั้นผมยังนึกไม่ออกนักว่าจะมีอะไรที่น่าห่วง ธนาคารไทยที่เป็นของต่างประเทศไปแล้วเช่น UOB Standard Charter นครธน ผมยังไม่ได้ยินข่าวว่าคิดดอกเบี้ยแพงกว่าธนาคารของไทยจนน่าเกลียดนะครับ แต่ถ้าต่างชาติมาซื้อธนาคารไทยไป 2-3 แห่งจากนี้ก็อาจจะมีความวุ่นวายไหมครับหากใครจุดประเด็นว่าต่างชาติจะมาเป็นเจ้าของธนาคารและจะมาขูดรีดดอกเบี้ยคนไทย และเป็นการขายชาติอีกแล้ว ธนาคารหรือบางธุรกิจเป็นของต่างชาติไม่ได้แต่เราลืมคิดไปไหมครับว่ารถยนต์ที่วิ่งๆ กันเป็น 10 ล้านคันบนถนนหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่เราใช้อยู่นั้นเป็นของญี่ปุ่น เกาหลี ยุโรปกันทั้งนั้น

2.ถ้า 3g เกิดขึ้นมาหุ้นตัวใดจะได้ประโยชน์บ้างครับ

ที่กระทบกับหุ้นมือถือทุกตัวแน่ๆ คือ ต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก และไม่แน่ใจว่ามีตัวไหนอาจจะต้องเพิ่มทุนบ้าง แต่ตัวที่ได้เปรียบที่สุดก็คงเป็นตัวที่มีส่วนของทุนมากที่สุดและมีหนี้น้อยสุด ง่ายๆ คือ D/E ต่ำสุด แต่ถ้าลงทุนเพิ่มไปแล้วนั้นค่าเสื่อมราคาคงจะเพิ่มขึ้นมากแต่ในแง่รายได้ต่อผู้ใช้ไม่ทราบจะเพิ่มได้มากน้อยแค่ไหนนะครับ เพราะ 3G บางทีมันก็ยังเป็นสิ่งที่ไกลตัวผู้ใช้มือถือระดับ mass หรือรากหญ้าไป เช่น ชาวต่างจังหวัด หรือผู้ใช้แรงงานคงยังไมค่อยมีความคิดที่จะดูฟุตบอล หรือ load ภาพยนตร์หรือมิวสิควีดีโอมาทางมือถือครับ ความเห็นผมๆ คิดว่า 3G ยังไม่เกิดในเร็ววันครับ ค่ายมือถือคงรอให้ถึงวันที่เห็นว่าผู้ใช้มีความต้องการอะไรที่เกี่ยวกับ 3G ที่มากพอที่สมควรกับการลงทุนเสียก่อนครับ ดังนั้นอีก 5 ปีอาจจะยังไม่เกิดก็ได้ครับ

3.พี่ ih คิดว่า ssc รวมๆแล้วถือว่าเป็นหุ้นถูก (value) หรือว่า asset plays ครับ

เป็นหุ้นที่ตอนซื้อก็ถูกแล้ว ตอนขายออกไปอาจจะยังถูกกว่ารึเปล่านะครับ ? ส่วน asset ที่ SSC มีก็ใช้ในการประกอบธุรกิจ คือ เป็นคลังสินค้า แม้ว่าที่ดินหลายๆ แปลงจะอยู่ในทำเลที่ดี เช่น ริมแม่น้ำ แต่ผู้บริหารก็ไม่ได้มีความคิดที่จะขายออกไปเพื่อ unlock value และการขายที่ทำเลดีเหล่านั้นออกไปก็ทำให้ SSC ก็ต้องหาที่พื้นใหม่มาสร้าง warehouse ใหม่ ซึ่งก็ยังไม่น่าจะอยู่ในความคิดผู้บริหารครับ ในแง่เราเป็นผู้ถือหุ้นอยากเห็น EPS สูงๆ หรือ dividend มากๆ จากการ unlock asset value แต่ถ้าผู้บริหารเค้าก็อาจจะมีหลายๆ เหตุผลที่ไม่ได้คิดเหมือนเราครับ ซึ่งการซื้อหุ้น asset play นั้นควรจะดูหุ้นที่มีแนวโน้มจะขายสินทรัพย์นั้นๆ ออกไปจะดีกว่าครับ ส่วนตัวธุรกิจของ SSC นั้นก็ได้รับ pressure ด้านต้นทุนหลายทางครับ เช่น น้ำตาล ค่าน้ำมันขนส่ง ค่าบรรจุภัณฑ์ แต่ถูกคุมราคาขายไว้ ทำให้ margin ในช่วงหลังๆ นั้นแย่ลงครับ ตอนหลังผมไม่ให้น้ำหนักกับ asset play เท่าไหร่แล้วครับถ้า asset นั้นๆ ไม่ generate รายได้และกำไรที่ดีให้ธุรกิจ บางที asset play เหมือนไปแต่งงานกับลูกสาวเศรษฐีแล้วรอเค้าแบ่งมรดกกันอย่างนั้นน่ะครับ

4.ถ้าพี่ ih เจอหุ้นบางตัวที่ผู้บริหารซื้อไปใน 59-2 เช่นเป็นเงิน 10 ล้าน แถมราคาที่ซื้อเข้าไปก็ยังแพงกว่าราคาตลาด ซัก 20 % เช่นซื้อไป 5 บาทราคาปัจจุบันหรือยู่ 4 บาท คุณ ih จะมีมุมมองเบื้องต้นอย่างไร

-  หุ้นที่เข้าข่ายที่ว่าตอนนี้ผมคิดว่ามีไม่ต่ำกว่า 20-30 ตัวนะครับ มุมมองก็คือ ผู้บริหารเค้าก็ไม่ทราบเหมือนกันครับว่าฝรั่งจะขายหุ้นวันละ 2-3 พันล้านแบบนี้ ดังนั้นผมคิดว่าสิ่งที่เราถามผู้บริหารเกี่ยวกับกิจการได้เกือบหมดแม้แต่ผลประกอบการ ( ถ้าเค้าเผลอบอก ) แต่สิ่งเดียวที่เค้าตอบไม่ได้ก็คือหุ้นของเค้ามีแนวโน้มขึ้นหรือลงต่อ แต่อย่างไรก็ตาม การที่เค้าซื้อหุ้นบริษัทที่ตัวเองทำงานนั้นก็แสดงว่าเค้ายังเชื่อว่ามุมมองระยะยาวยังดีครับ แต่บางทีการเป็นผู้บริหารแต่รับผิดชอบแค่บางสายงานอาจจะเห็นข้อมูลไม่รอบด้านก็ได้นะครับ เช่น ดูแลฝ่ายขายก็เลยเห็นตัวเลขยอดขายดีมากเลยซื้อหุ้นแต่ไม่ทันดูฝั่งการผลิตว่าต้นทุนสูงขึ้นมากจนทำให้ margin และกำไรลดลงหรือเปล่า หรือบางทีอาจจะเคยขายที่ราคาแพงๆ กว่านี้มากแล้วตอนนี้แค่รับกลับมาในจำนวนเท่าเดิมหรือน้อยกว่าเดิมด้วยหรือเปล่า ยังไงลอง check ข้อมูลย้อนหลังดีๆ ด้วยนะครับ

5.กระทู้ก่อนหน้าคุณ ih มีการกล่าวถึง tmt ว่าถ้าอยากรู้ว่าไตรมาส 2 หุ้นเหล็กจะกำไรดีแค่ไหน ให้ดู
Inventory / sale ซึ้งผมไปดูมาก็ได้ 708/2211 ได้ออกมา 0.32 ผมก็เลยงงว่า ค่านี้บอกอะไรได้ว่า
ไตรมาส 2 กำไรจะดี

ขอลองคิดเองก่อนไม่แน่ใจว่าถูกไหม

ถ้า เหล็กเป็นค่าขึ้น ตัวที่ inventory เพิ่มเยอะสุดถึงจะได้ประโยชน์ เพราะไตรมาสต่อมา
น่าจะ margin ดีขึ้น

แต่ที่เทียบกับ sale ผมก็ยังไม่เข้าใจอะครับ

และยอดขายจริงๆ ต้องนำมาคุณ 4 ในการคำนวณไหมครับ

การเปรียบเทียบกับ sale ที่ผมบอกไว้นั้นเพื่อเปรียบเทียบกันเองในหุ้นกลุ่มเหล็กด้วยกันครับ ว่าตัวไหนที่น่าจะได้ประโยชน์จาก stock เหล็กสูงสุด ดังนั้นถ้าเอา sale คูณ 4 ก็ต้องคูณ 4 กับ sale ของหุ้นทุกตัวดังนั้น ตัวเลขที่ออกมาสำหรับหุ้นแต่ละตัวก็ไม่ได้แตกต่างกันอยูดีครับ ค่าเท่ากันครับ
ส่วนกรณี tmt ว่าถ้าอยากรู้ว่าไตรมาส 2 หุ้นเหล็กจะกำไรดีแค่ไหน ให้ดู
Inventory / sale ซึ้งผมไปดูมาก็ได้ 708/2211 ได้ออกมา 0.32

ตัวเลข 0.32 แสดงว่าถ้ายอดขายไตรมาส 2 ใกล้เคียงกับไตรมาส 1 คือประมาณ 2.2 พันล้าน จะมีเหล็กที่เป็นต้นทุนเดิมประมาณ 708 ล้าน หรือคิดเป็น 32% ของยอดขาย ถ้าอยากรู้ว่าเป็นกี่ % ของต้นทุนขายก็ให้เอา inventory / cost of sale ซึ่งน่าจะได้ค่าที่สะท้อนอะไรได้มากกว่าอยู่เหมือนกันครับ

6.และ tvo เองก็มี stock เพิ่มขึ้นเหมือนกัน ในงบ q1 สี้พันหนึ่งร้อยล้าน จากปีที่แล้ว สามพันห้าร้อยล้าน
ผมตีความว่าอย่างนี้ได้ไหมครับ

ราคาถั่วเหลืองของปีนี้จุดสูงสุดประมาณเดือน มีนา และ q2 เริ่มลดลง
แสดงว่า ส่วนที่ tvo stock เพิ่มไป 600 ล้าน น่าจะทำให้กำไร q2 ตกเนื่องจาก
Stock ของแพง ไม่เหมือน q1 ที่ stock ของเก่าๆถูกๆมานาน

- ราคาถั่วเหลืองไตรมาส 2 เริ่มลดลงหรือครับ ผมยังรู้สึกว่าเหมือนยังทรงๆ หรือขึ้นอยู่ไม่ใช่หรือครับ ถ้าลงจริงดังว่าก็เป็นไปได้ครับที่อาจจะไม่กำไรดีเท่า Q1 แต่ผมอ่านบทวิเคราะห์เห็นเค้าบอกว่ากำไร Q2 ของ TVO จะดีกว่า Q1 เลยทำให้เข้าใจว่า Q2 ราคาถั่วเหลืองน่าจะยังเป็นขาขึ้นอยู่นะครับ ลอง check ข้อมูลดูหน่อยแล้วกันนะครับ

กราฟราคาถั่วเหลืองผมอ่านจาก https://www.trinityquicktrade.com/Inter/research/TVO-Thai-20080513.pdf
หน้า 3 น่ะครับ

ก็คือสรุปว่า ถ้าราคาถั่วเหลืองลงปุ๊ป tvo ก็อาจจะเจ็บตัวได้เนื่องจาก stock เพิ่มตอนแพง ไม่ทราบว่าถูกไหม


7.ขอความเห็นพี่ ih เกี่ยวกับที่บางค่ายคาดว่าราคาน้ำมันจะไป 200 หน่อยครับว่าพี่ เห็นด้วยมากน้อยแค่ไหน
และถ้าไปถึงจริง banpu pttep น่าจะมีกำไรโตกว่าที่ใครๆคาดการณืกันตอนต้นปี มากไหมครับ

- เห็นว่าทุกอย่างมีความเป็นไปได้ทั้งสิ้นครับ ปัจจุบันน้ำมันดิบที่ 146 เหรียญก็คงเป็นราคาที่น้อยคนนักจะนึกถึง ตอนนี้ประเทศจีนและอินเดียก็ยังเติบโตอยู่เรื่อยๆ รถยนต์ราคาประหยัดก็ผลิตออกมาให้คนเปลี่ยนจากการขับจักรยานมาเป็นมอเตอร์ไซค์หรือจากมอเตอร์ไซค์มาเป็นรถยนต์ แต่บางประเทศที่ผู้คนมัวแต่ทะเลาะกันกำลังจะต้องเปลี่ยนจากขี่มอเตอร์ไซค์มาเป็นขี่ม้าแทนแล้ว สังคมเมื่อกำลังพัฒนาคนก็จะดูกันที่วัตถุครับ อย่างเพลงสมัยก่อนก็จะมีเพลงประเภท สาวมอเตอร์ไซค์ ของคุณจรัล มโนเพชร ความหมายเพลงก็ประมาณว่าหนุ่มๆ คนไหนไม่มีมอเตอร์ไซค์ขับสาวเจ้าก็ไม่สนใจ ดังนั้นหนุ่มในเพลงจึงต้องร้องเพลง ขายนาซื้อคาวาซักคัน พอไปถึงเฮ้าจะเบิ้ลน้ำมัน ………. “ แต่ตอนนี้ผมว่าขายมอเตอร์ไซค์มาซื้อที่นาไปปลูกข้าวจะดีกว่าครับเพราะข้าวราคาดี

ส่วนกำไรของ PTTEP และ Banpu ก็คงมีแนวโน้มดีแน่ครับ แต่ตอนนั้นดอกเบี้ยก็คงขึ้นไปอีกพอสมควรนะครับอย่างน้อย 1-2% ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าแม้ว่ากำไรหุ้นพลังงานจะดี แต่ราคาหุ้นจะดีตามหรือไม่ เพราะตอนนี้ขนาดน้ำมันใกล้ๆ new high แต่ราคาหุ้นพลังงานยังห่างจาก high เดิมไปเยอะทีเดียวนะครับ ผมกำลังนึกถึงคำพูดของ Jim Rogers ที่มองว่า commodity จะวิ่งยาว และให้ซื้อที่ underlying คือ ไปซื้อ future ของ commodity ต่างๆ เลยแทนที่จะไปซื้อหุ้น commodity นั้นๆ

8.คำพูดของ buffet คำนึงบอกว่า

you should invest in a business that even a fool can run, because someday a fool will

ผมว่าเรื่องนี้คล้ายๆกับที่มีคนบอกผมว่า เขาไม่ค่อยอยากลงทุนหุ้น oishi เพราะว่าพึงดิงคุณตันมากเกินไป ผมก็เลยสงสัยว่าถ้าอย่างนั้นเขาไม่ต้องไปลงทุนแต่ในบริษัทผูกขาดหรือ ที่ให้ใครก็ได้มาบริหาร ปกติใครๆก็ชอบบริษัททู้บริหาร manage เก่งๆ แต่คำพูดนี้ของ buffet ทำให้ผมสับสนเล็กน้อย พี่ ih มีความเห็นยังไงครับ

- ผมก็เห็นด้วยนะครับ บางทีผมได้คุยหรืออ่านข่าวเกี่ยวกับผู้บริหาร 2 คน ทั้ง 2 คนอาจจะเก่งพอๆ กัน แต่การที่อยู่กันคนละธุรกิจก็ทำให้การเติบโต กำไรหรือ mkt cap ต่างกันได้ ยกตัวอย่างเช่น ผู้บริหาร PTT นั้นเก่งกว่า THAI มากหรือไม่ หรือถ้ายกทีมผู้บริหาร PTT ไปฟื้นฟู THAI จะทำได้ดีและราคาหุ้นและกำไรจะดีขึ้นมากเหมือน PTT หรือไม่? ดังนั้นบางทีทีมบอร์ด ผู้บริหารอาจจะเก่งพอๆ กัน แต่สิ่งที่ต่างกันคือธุรกิจที่เค้าอยู่นั้นต่างกัน

ส่วน Oishi นั้น ผมคิดว่าถ้าคุณตันจะถอยออกมาเรื่อยๆ ก็คงไม่ถึงกับมีปัญหาอะไรนัก เพราะตอนนี้คนซื้อชาเขียว Oishi กินเค้าคงไม่ได้สนใจว่าคุณตันจะทำงานอยู่ที่ Oishi หรือไม่แล้ว อย่างคนซื้อน้ำพริกแม่ประนอม หรือหม้อแกงแม่กิมไล้ หรือแม่อื่นๆ นั้น หรือยาหม่องที่มีหน้าคนก่อตั้ง ผมก็ไม่ทราบหรอกครับว่ารูปผู้หญิงสูงอายุที่เอามาแปะนั้นเป็นผู้ก่อตั้งหรือใคร บางทีคนก่อตั้งก็อาจจะสำคัญครับแต่วันหนึ่งถ้าต้องมีการเปลี่ยนแปลงคนก็จะรับรู้กันไปเอง เช่น ตอนนี้คนอเมริกันก็ขับรถ Ford ทั้งๆ ที่ Henry Ford ก็เสียชีวิตไปแล้ว คนยังซื้อผ้าไหม Jim Thomson ทั้งๆ ที่ Jim Thomson ก็หายสาบสูญไปนานแล้ว ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้ธุรกิจที่พึ่งพิงผู้ก่อตั้งมากนั้นในอนาคตจะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นกับระบบภายในที่เค้าสร้างขึ้นมารองรับอนาคตอย่างไรมากกว่าครับ รวมไปถึงวัฒนธรรมองค์กรด้วยนะครับ และบางครั้ง Buffet ยังซื้อหุ้นในช่วงสูญญากาศคือ เจ้าของเดิมเสียชีวิตและมีการเปลี่ยนถ่ายอำนาจการบริหารและช่วงนั้นนักลงทุนคนอื่นก็กังวลและขายหุ้นลงมาด้วย ยกตัวอย่างกรณีนี้เช่นการเข้าซื้อหุ้น Washington Post ครับ

9.buffet เคยพูดอีกคำนึงว่า ถ้าคุณอยู่เฉยๆไม่ได้เมื่อหุ้นลงไป 50% คุณก็ไม่ควรมาเล่นหุ้น
ผมคิดว่าคำพูดนี้อาจจะ aggressive เกินไป และตามหลักแล้วเวลาเราซื้อหุ้นแล้วมันลงไปซัก
25-30% เราก็คงคิดว่าสงสัยเราจะคิดผิดแล้วล่ะ มันถึงได้ลง

อยากถามว่าในชีวิตจริงพี่ ih เคยซื้อหุ้นตัวไหนแล้ว หุ้นมันลงไป 50% ก่อน และพี่ ih ไม่หวั่นไหวเลย
เพราะที่ลงไป 50% ไม่เกี่ยวกับพื้นฐาน และสุดท้ายแล้วราคาขึ้นไปถึงเป้าหมาย

- Buffet ผ่านช่วง cycle เศรษฐกิจมาเยอะครับ ดังนั้นการที่ตลาดหุ้นลดลง 50% นั้นก็เป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้วเหมือนกันในรอบอายุของ Buffet ครับ ส่วนหุ้นดีๆ ที่ราคาลง 50% ในช่วงวิกฤติต่างๆ ก็เป็นได้ครับ เพราะเวลาตลาดฟื้นตัว VI หลายๆ คนก็ได้กำไรจากการซื้อหุ้นดีๆ ที่ราคาลงมา 50% ด้วยเหมือนกันนะครับ

No comments:

Post a Comment